วันที่ 17 ธ.ค.2563 ที่ห้องประชุมชั้น 23 ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่สุขุมวิท พระปราโมทย์ วาทโกวิโท,ดร. วิทยากรต้นแบบสันติภาพ อาจารย์หลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้เป็นวิทยากรฝึกอบรมและโค้ชผู้นำธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่สุขุมวิท หลักสูตรผู้นำองค์กรสันติสุขโดยพุทธสันติวิธี หัวข้อ Inner Peaceful for Leadership : พัฒนาผู้นำองค์กรด้วยสันติภายใน โดยเป็นการนำModel สู่การทดลองงานวิจัยระดับดุษฎีนิพนธ์ ของนิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร เริ่มต้นจากการเจริญสติสร้างสันติภายในสำหรับผู้นำองค์กร เชื่อมโยงกับการโค้ชผู้นำภายใต้คำว่า #ท่านคิดว่าท่านเป็นผู้นำแบบใด ท่านมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไรในการเป็นผู้นำของท่าน ทุกท่านได้แลกเปลี่ยนจากการโค้ชผ่านภาพ ทำให้ทุกท่านได้ตระหนักภายในตนโดยเฉพาะภายใน โดยผู้นำในมิติพระพุทธศาสนาจะต้องมีจังหวะ เวลา เสนา จักขุมา ธรรมะ เป็นผู้นำที่นั่งในหัวใจคนมากกว่าผู้นำที่นั่งอยู่บนหัวคน
จากนั้นดร.จตุพร วิศิษฎ์โชติอังกูร ในฐานะเป็นวิทยากรกระบวนการ และที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท The Ultimate Leader จำกัด แลกเปลี่ยนสร้างกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นกัลยาณมิตรภายใต้หัวข้อ Inside Leadership Behaviors : Knowing yourself (ผู้นำเพื่อการเปลี่ยนแปลง จากภายในสู่ภายนอก) โดยใช้เครื่องมือตาม Model เน้นให้ผู้นำได้เข้าใจตนเองและเข้าใจคนอื่น เพราะถ้าเรารู้จักตนเองเราจะรู้จักคนอื่น ผู้นำจึงต้องมีความสุขจากภายใน ไม่มีอะไรเลวร้ายในจิตใจที่ดี คนหนึ่งมองหาสิ่งที่ขาด อีกคนมองในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ คนหนึ่งหาวิธีลืม อีกคนหาวิธีปล่อยวาง คนหนึ่งกนีความทุกข์ อีกคนเรียนรู้จะอยู่กับความทุกข์ ความทุกข์อยู่กับเราสั้นๆ แต่เราคิดซ้ำๆ ทำให้ความทุกข์อยู่ยาว ผู้นำต้องใช้วิชาตัวเบาโดยจัดการใจตนเอง
ผู้นำจงกล้าซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง ผู้นำจึงมี 3 มิติ คือ นำตน นำทีม นำองค์กร ผู้นำจึงต้องมีความสุขจากภายในตนเอง จึงจะสามารถนำพาคนอื่นให้มีความสุข เพราะถ้าแห้งแล้งคนรอบข้างจะแห้งเเล้ง ความสุขจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ผู้นำจึงพัฒนาด้านกาย ด้านพฤติกรรม ด้านจิตใจ ด้านปัญญา จึงต้องเรียนรู้เข้าใจรูปแบบเฉพาะของผู้คน เพื่อเข้าใจผู้คนในแบบที่เขาเป็น : Learning Style For Learning Coach มีการ Workshop พฤติกรรม คุณลักษณะร่วมที่คล้ายกันของคนในกลุ่มในด้านบวกและด้านลบ เราเป็นเราแต่เราพัฒนาได้ ผู้นำจึงแบ่งออกเป็น 4 สี คือ 1)เขียวคือนักวิชาการ คนเจ้าระเบียบ 2)เหลืองนักสร้างบรรยากาศคนกลุ่มอะไรก็ได้ 3)แดงนักปฏิบัติคนกลุ่มไม่ยอมใคร 4)ฟ้านักคิดสร้างสรรค์กลุ่มคนร่าเริง จะมีลักษณะจุดแข็งจุดอ่อนต่างกันสอดรับกับจริตในทางพระพุทธศาสนาจริตจะทำให้คนมีความแตกต่างกัน แต่ละคนมีความหลากหลาย สามารถเชื่อมโยงกับสัตว์ 4 ทิศ คือ อินทรีย์ กระทิง หมี หนู ซึ่งจะบ่งบอกถึงพฤติกรรมภายในและภายนอกของแต่ละบุคคล ทุกคนจะมีตัวตนของเราที่อยู่ภายใน ผู้นำจึงต้องเข้าใจคนอื่นเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละบุคคล
พระปราโมทย์ กล่าวด้วยว่า จึงขอชื่นชมในความมุ่งมั่นของนายนนท์ปวิชช์ สุจริต ผู้อำนวยการฝ่ายสถาบันพัฒนาศักยภาพบุคลากร ธนาคารกรุงไทย นิสิตระดับปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา รุ่น 1 ในการนำ Model ลงมาพัฒนาผู้นำในกรุงไทยถือว่าเป็นงานวิจัยสร้าง สร้างประโยชน์ต่อองค์กร งานวิจัยรับใช้สังคม จึงโค้ชผู้นำธนาคารกรุงไทยผ่าน Modelการพัฒนาผู้นำองค์กรให้เกิดสันติสุข เพราะการเป็นผู้นำที่สุดยอดสามารถนำตนเองได้อย่างมีความสุข ผู้นำจึงสามารถออกแบบการเป็นผู้นำจากโลกภายในสู่การเปลี่ยนแปลงโลกภายภาย ผู้นำถ้ารู้จักตนเองแล้ว ยังสามารถเข้าใจคนอื่นจะสามารถทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขและเกิดสันติสุขในองค์กร แต่สุดท้ายต้องมีความจริงใจจุดร่วมบนความหลากหลายของผู้คน เราไม่สามารถเปลี่ยนตัวตนแต่เราสามารถพัฒนาตนเอง จึงย้ำว่า ผู้นำเขียวเน้นเหตุผล ผู้นำแดงเน้นงาน ผู้นำฟ้าเน้นคน และผู้นำเหลืองเน้นความรู้สึก แต่ผู้นำต้องปนเปื้อนในทุกสี ออกจากจุดของตนเองแล้วไปอยู่จุดอื่นสร้างความสมดุล โดยไม่ไปเปลี่ยนคนอื่นๆ ทำให้เราเห็นศักยภาพที่แท้จริงของเพื่อนร่วมงาน มีวิธีการสื่อสารที่ถูกต้องคนกับเพื่อนร่วมงานอย่างสันติ โดยทำให้เราเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจธรรมชาติ ยอมรับว่า #เป็นเช่นนั้นเอง และยอมรับความแตกต่างแต่สร้างสรรค์
Leave a Reply