มท.1และคณะลุยให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร ขอบคุณเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชน สั่งการหลังน้ำลดเร่งเยียวยา
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 เวลา 14.00 น. ภายหลังจากการตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวดอนปู่ตา เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะเดินทาง ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ รวมถึงประชาชนจิตอาสา ในพื้นที่เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร โดยมีนายสมมาฏฐ์ โพธิ นายอำเภอพิบูลมังสาหาร และ ดร.ศิริมาเมธ์วดี ศิรธนิตรา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร เป็นผู้กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยในขณะนี้อำเภอพิบูลมังสาหาร มีชุมชนเดือดร้อนจำนวน 92 ชุมชน คิดเป็น 3,579 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อน 8,747 คน ซึ่งมีการอพยพออกจากพื้นที่แล้ว 6,801 คน
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำว่า ขอเป็นตัวแทน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ส่งความห่วงใยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ขอเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทั้งด่านหน้าเเละผู้สนับสนุน ในช่วงสถานการณ์ที่ระดับน้ำยังคงสูงอยู่ ขอให้ทุกฝ่าย รวมถึงประชาชนจิตอาสาช่วยดูแลพี่น้องประชาชนในด้านการดำรงชีพ อาหาร น้ำดื่ม สุขา การเดินทางสัญจร สาธารณูปโภคไฟฟ้าและน้ำประปา รวมถึงการบริการทางด้านสาธารณสุข ซึ่งจะต้องสำรวจว่าพื้นที่ไหนมีความต้องการอย่างไร และจัดให้มีบริการอย่างทั่วถึง ที่เดินทางมาวันนี้ นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงอย่างมากว่า กลัวว่าคนในพื้นที่จะได้รับการดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งอาจมีตกหล่นไปบ้าง ขอให้รีบแจ้งการขอรับความช่วยเหลือมายังเจ้าหน้าที่ หรือโทรศัพท์ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในเรื่องสุขอนามัยขอให้ช่วยกันสื่อสารให้ระวังโรคภัยที่มากับน้ำ โดยเฉพาะโรคน้ำกัดเท้า หากมีเเผลจะต้องรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือ การเป็นโรคเรื้อรังในอนาคต ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัยที่มากับน้ำด้วย สุดท้าย คือ การเยียวยาและการฟื้นฟู ซึ่งทางจังหวัดอุบลราชธานีได้มีการเร่งที่จะสำรวจ ตั้งแต่ที่อยู่อาศัย และการประกอบอาชีพแล้ว คาดว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จะได้เร่งให้ความช่วยเหลือ และฟื้นฟูให้พี่น้องประชาชนกลับมามีชีวิตที่ปกติสุขโดยเร็ว ประกอบกับขอความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในเรื่องของการช่วยเหลือซ่อมเเซมวัสดุอุปกรณ์ที่เสียหายจากน้ำท่วม ให้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยทหาร วิทยาลัยสารพัดช่าง สถาบันอาชีวะ ให้เข้ามาดูแลช่วยเหลือซ่อมแซมเพื่อลดภาระทางด้านค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าในยามเดือดร้อนคนไทยไม่ทิ้งกัน มีผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากที่พร้อมจะช่วยเหลือ สำหรับกรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง จะขอนำประเด็นดังกล่าวไปหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษต่อไป
ในการนี้พลเอกอนุพงษ์ได้เข้ากราบขอบพระคุณพระปัญญาวชิรโมลี (นพพร ธีรปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม บ้านดงดิบ ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีส่วนในการช่วยเหลือประชาชนด้วย และมีส่วนในการรณรงค์ในการใช้โซล่าเซลล์
ทั้งนี้พระปัญญาวชิรโมลีได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า “มท 1 ลงพื้นที่ มอบนโยบาย การช่วยเหลือเยียวยาแก้ปัญหาหลังน้ำลด พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้มาลงพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดอุบลฯ และมอบนโยบายให้ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการรีบดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ทั่วถึง และเตรียมฟื้นฟูหลังน้ำลด นอกจากนี้ท่านรัฐมนตรียังสอบถามมายังวัดป่าศรีแสงธรรม ที่ท่านเคยมาเยี่ยมพร้อมนายกรัฐมนตรี และบอกว่าได้นำเรื่องโซลาร์เซลล์เหมือนของวัดขยายไปทั่วประเทศ น่าจะมีประโยชน์มาก”
Leave a Reply