“พุทธะอิสระ” ไม่เลิก “ฟาดต่อพระภิกษุ” ผู้ร่วมงาน “อดีตพระเถระวัดสระเกศครองจีวร” ฐานรู้เห็นเป็นใจ

เช้าวันนี้ (22 เม.ย.64 )  นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์เฟชบุ๊ค “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” ความว่า

..อยากกราบฝากกรรมการมหาเถรทุกท่าน และ ผอ.สำนักพุทธ ว่างานนี้ผู้เก้อยากทั้ง ๕ แห่งวัดสระเกศ ทำแต่เพียงลำพังมิได้ มันต้องมีผู้ร่วมรู้เห็นเป็นใจ และร่วมกระทำผิดด้วย

ได้ยินแว่วมาว่า นอกจากรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศแล้ว ก็มีบรรดาเจ้าอาวาสในแต่ละวัด แว่วๆ มาว่ามีเจ้าอาวาสพระอารามหลวงมาร่วมอยู่หลายวัด

ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า การกระทำเช่นนั้นมันผิดธรรม ผิดวินัย ผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนมติคำสั่งของผู้ปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ แต่ก็ยังฝืนทำ

พฤติกรรมเยี่ยงนี้ถือว่า เป็นการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการอย่างร้ายแรง

จริยาของพระสังฆาธิการต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด เพราะละเมิดแล้ว ย่อมได้รับโทษฐานละเมิดจริยามีทั้งหมด ๘ ข้อ

๑. พระสังฆาธิการต้องเคารพเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญญัติสมเด็จพระสังฆราช สังวรและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด

๒. พระสังฆาธิการต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ถ้าไม่เห็นพ้องด้วยคำสั่งนั้น ให้เสนอความเห็นทัดทานเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง และเมื่อได้ทัดทานดังกล่าวมานั้นแล้ว แต่ผู้สั่งมิได้ถอนหรือแก้คำสั่งนั้น ถ้าคำสั่งนั้นไม่ผิดพระวินัยต้องปฏิบัติตาม แล้วรายงานจนถึงผู้สั่ง

ในกรณีที่มีการทัดทานคำสั่งดังกล่าวในวรรคแรก ให้ผู้สั่งรายงานเรื่องทั้งหมดไปยังผู้บังคับบัญชาเหนือตนเพื่อพิจารณาสั่งการ

ในการปฏิบัติหน้าที่ ห้ามทำข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตพิเศษเป็นครั้งคราว

๓. พระสังฆาธิการต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง มิให้เกิดความเสียหายแก่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา และห้ามมิให้ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร

๔. พระสังฆาธิการต้องปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ และห้ามมิให้ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่สมควร

๕. พระสังฆาธิการต้องสุภาพเรียบร้อยต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตนและผู้อยู่ในปกครอง

๖. พระสังฆาธิการต้องรักษาส่งเสริมสามัคคีในหมู่คณะ และช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางที่ชอบ

๗. พระสังฆาธิการต้องอำนวยความสะดวกในหน้าที่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา

๘. พระสังฆาธิการต้องรักษาข้อความอันเกี่ยวกับการคณะสงฆ์ที่ยังไม่ควรเปิดเผย

ด้วยบทบัญญัติของพระสังฆาธิการที่ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อ ๑ และ ๒ เมื่อเจ้าอาวาสหรือพระสังฆาธิการทั้งหลายรู้อยู่ว่ามีข้อห้ามดังกล่าว แต่กลับไม่นำพา เช่นนั้นก็สมควรได้รับผล

สำนักพุทธต้องเสนอมหาเถรให้ทำการตรวจสอบดูว่า พระสังฆาธิการเหล่านั้น รู้เห็นเป็นใจกับผู้กระทำผิดด้วยหรือไม่

หากเห็นดีเห็นงามไปกับเขาด้วย ก็ต้องถูกลงทัณฑ์ตามกฎหมายคณะสงฆ์

Leave a Reply