วันที่ 17 มิถุนายน 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานในการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ระดับภาค โดยมี นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมด้วยคณะกรรมการประกวดระดับภาค และผู้อำนวยการโรงเรียน OTOP จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ณ โรงแรมแคนทารี ฮิลล์ เชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นย้ำมาตรการป้องการเว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิอย่างเคร่งครัด

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเป็นการต่อยอดการพัฒนาผ้าลายพระราชทาน ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน ได้ส่งมอบต่อให้กับกลุ่มทอผ้าในทุกจังหวัด เพื่อนำไปเป็นต้นแบบและพัฒนาต่อยอดไปสู่เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ตามวิถีที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น ตามพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือ ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะ หัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับเข้าสู่ชุมชน เป็นวงจรเศรษฐกิจเชิงมหภาค และส่งเสริม กระตุ้น ผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากลเป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัยและทุกโอกาส ตลอดทั้งเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแก่ผู้สืบทอดภูมิปัญญาผ้าไทย กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้จัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ระดับภาค ภายใต้โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาและพัฒนาศักยภาพผ้าไทย ซึ่งเป็นตัวแทนระดับภาค ในการจัดประกวดระดับภาคผ่านมาแล้ว 2 ภาค คือ ภาคกลาง จังหวัดอยุธยา ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคเหนือ เป็นภาคที่ 3 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประกวดมากกว่า 400 ผืน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 นำไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป เพื่อนำไปสู่สายพระเนตรแก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในรอบชิงชนะเลิศวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2564 และในงาน OTOP City ที่ผ่านมา ถือเป็นประวัติศาสตร์ของกรมการพัฒนาชุมชน ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่านเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน ด้วยพระบารมีของพระองค์ครั้งนั้น นำความปลาบปลื้มใจมาสู่พี่น้องผู้ประกอบการ OTOP เป็นอย่างมาก สามารถสร้างรายได้แก่พี่น้องผู้ประกอบการ OTOP ให้ผ่านลุล่วงไปได้ จากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และในวันนั้นเองพระองค์ท่านทรงพระราชทานแบบลายผ้า ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แก่พสกนิกรชาวไทย ผ่านกรมการพัฒนาชุมชน อันเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบ ตอกย้ำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าความงดงามของผ้าไทยจะคงอยู่คู่กับสังคมไทย ทำให้พี่น้องทั้งหลาย กล้าที่จะออกจากกรอบความคิดที่มีต่อผ้าไทยแบบดั่งเดิม ไม่เพียงแต่วงการทอผ้าเท่านั้น แต่ยังต่อยอดไปถึงการสร้างคุณค่าในงานหัตถกรรม หัตถศิลป์ประเภทอื่น ๆ อีกด้วย

ขณะที่ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ซึ่งสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงาน พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา ในการพลิกฟื้นผ้าไทย จากสิ่งทอของชาวบ้านที่เกือบสูญหายให้กลับมาเป็นอาภรณ์ที่สวมใส่ให้คนทั่วโลกยอมรับถึงคุณค่าและความงดงามอันประเมินค่ามิได้ ทำให้สตรีไทยเกิดอาชีพเสริม จนปัจจุบันกลายเป็นอาชีพหลัก โดยการสืบสานต่อยอดในพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นต่อปวงชนชาวไทย สืบสานมายังสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระเมตตาในการที่จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมสิ่งที่สำคัญที่สุดของความเป็นไทย เรื่องหนึ่งคือ เรื่องของวัฒนธรรมการแต่งกาย สนับสนุน ส่งเสริม รื้อฟื้น ชีวิตผ้าไทย ทำให้วงการทอผ้าไทย มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ด้วยลมหายใจของช่างทอ ซึ่งผ้าทุกผืนเกิดจากการถักทอด้วยลมหายใจของสตรี หากคนไทยพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยทุกวันทั้งประเทศ จะช่วยเป็นการส่งเสริมการทอผ้าในชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ก่อให้เกิดรายได้แก่กลุ่มสตรี การจัดการประกวดครั้งนี้จะเป็นการรักษา สืบสาน และต่อยอดภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ทำให้ผ้าทอไทยทุกผืนเกิดจากการถักทอด้วยลมหายใจของพี่น้องประชาชน เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจครัวเรือน และเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นไปยังลูกหลานเพื่อรักษาเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ จึงขอเชิญชวนทุกท่านสวมใส่ผ้าไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนให้ยั่งยืนสืบไป

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติม ขอขอบคุณท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการประกวดทุกท่านและประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่าย รณรงค์ส่งเสริมคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของภาคเหนือได้มีการส่งผ้าเข้าร่วมประกวด จำนวน 416 ผืน ประกอบด้วย ผ้าปักมือ จำนวน 77 ผืน, ผ้ามัดหมี่ 2 ตะกอ จำนวน 64, ผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ จำนวน 60 ผืน, ผ้ายกดอก จำนวน 57 ผืน, ผ้าตีนจก (ตีนซิ่น) จำนวน 32 ผืน,ผ้าจกทั้งผืน จำนวน 28 ผืน, ผ้าขิด จำนวน 18 ผืน, ผ้าบาติก/มัดย้อม จำนวน 18 ผืน,ผ้ามัดหมี่ 3 ตะกอขึ้นไป จำนวน 16 ผืน, ผ้ายกเล็ก จำนวน 15 ผืน, ผ้าเทคนิคผสมลาย จำนวน 12 ผืน, ผ้าลายน้ำไหล จำนวน 9 ผืน, ผ้ายกใหญ่ จำนวน 7 ผืน และ ผ้าพิมพ์ลาย จำนวน 3 ผืน รวมผ้าที่ส่งเข้าประกวด จำนวน 416 ผืน จึงเป็นดั่งดอกผลของความมหัศจรรย์ที่พระองค์ท่านได้ทรงพระราชทานแก่พี่น้องคนไทยที่ได้นำลายผ้าพระราชทาน ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ไปรังสรรค์แสดงผลงานเข้าประกวดกันในครั้งนี้ ทำให้วงการผ้าไทยเกิดความคึกคัก ปลุกกระแสผ้าไทยสู่สากล สร้างรายได้กลับสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน


Leave a Reply