“ณพลเดช” ถวายต้นกล้าฟ้าทะลายโจรแด่ “สมเด็จพระพุฒาจารย์” ตามโครงการ “ปลูกฟ้าสู่บ้านวัด 1 แสนต้น สู้โควิด-19” เตรียมนำไปขยายพันธุ์ต่อที่เขาแม่ชีโคราชเสริมโครงการโคกหนองนา พช. ขณะที่เจ้าคณะเขตลาดพร้าวขานรับถวายเพิ่ม 5 หมื่นต้น
วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่วัดไตรมิตรวิทยารามฯ ดร.ณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎร และนายกสมาคมการบินนภารักษ์ เข้ากราบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อน้อมถวาย “ต้นกล้าฟ้าทะลายโจร” จากโครงการ “ปลูกฟ้าสู่บ้านวัด 1 แสนต้น สู้โควิด-19” หรือ เรียกย่อๆ ว่าโครงการ “ปลูกฟ้า” เป็นโครงการถวายต้นกล้า “ฟ้าทะลายโจร” ให้กับ บ้าน-ชุมชน และวัด เพื่อนำไปขยายพันธุ์ นำไปสู่การนำฟ้าทะลายโจรต้นสดที่มีอยู่รอบตัว สามารถเด็ดใบนำไปรับประทานได้ทันทีเมื่อมีอาการติดเชื้อโควิด19
ทั้งนี้ ดร.ณพลเดช กล่าวว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้ชื่นชมโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี และจะนำต้นฟ้าทะลายโจรไปขยายพันธุ์ต่อที่เขาแม่ชี จ.นครราชสีมา ที่เข้าร่วมโครงการโคกหนองนา ที่ได้รับการผลักดันโครงการจากนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ จำนวน 50 ไร่
ดร.ณพลเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้นอกจากตนมาถวายต้นกล้าฟ้าทะลายโจรที่วัดไตรมิตร ตนก็ได้ไปถวายแด่ พระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เจ้าคณะภาค 7 และได้นำไปถวายเพิ่มเติมที่วัดบวรนิเวศวิหาร ล่าสุดตนต้องขอขอบคุณพระมหาเขมานันท์ ปิยสีโล ป.ธ.9. เจ้าคณะเขตลาดพร้าว เจ้าอาวาสวัดลาดปลาเค้า ขณะที่ตนได้เข้าไปถวายต้นฟ้าทะลายโจร ท่านบอกว่า “อาตมาขอปลูกต้นกล้าเพิ่มอีก 5 หมื่นต้น” เพื่อน้อมถวายแด่เจ้าพระคุณ สมเด็จพุฒาจารย์ และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรวิทยารามเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับวัดและประชาชน
ดร.ณพลเดช กล่าวอีกว่า นั่นหมายถึงขณะนี้มีต้นกล้าฟ้าทะลายโจรจาก 1 แสนต้น เพิ่มเป็น 1.5 แสนต้นแล้ว ซึ่งหากวัดและคณะสงฆ์ เป็นตัวกลางที่ช่วยสนับสนุนโดยใช้พื้นที่วัดเพื่อเพาะปลูกฟ้าทะลายโจรที่จะอยู่ในกรอบพระธรรมวินัย และนำไปแจกจ่ายกับประชาชนซึ่งก็จะตรงกับประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชที่ 2/2564 ที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงติดตามข่าวสารมาโดยตลอด พร้อมประทานพระดำริ ว่า วัดหลายแห่งในประเทศไทยมีอาคารสถานที่ โรงครัว อุปกรณ์ บุคลากร หรือปัจจัยอื่นๆ ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการบรรเทาความเดือดร้อนในด้านต่างๆ” เพื่อช่วยแก้ปัญหาโควิด19
“โดยเห็นว่าหากเรามีฟ้าทะลายโจรที่เป็นต้นสดอยู่โดยทั่วไปก็จะเหมือนเรามีโรงงานผลิตยาเพื่อต้านพิษโควิด19 ไว้ข้างกายเลยทีเดียว เราสามารถรับประทานใบสด หรือนำไปต้มเป็นน้ำชาได้ทันที หรือบางคนอาจนำไปทำเป็นผงเพื่อบรรจุแคปซูลหรือปั้นเป็นลูกกลอนได้ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีงานวิจัยและงานทดลองทั้งในและต่างประเทศที่เห็นผลได้ชัดแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ที่จะยับยั้งเชื้อโควิด19 ได้จริง ซึ่งการรบกับโควิด19ในระหว่างที่รอวัคซีน เราอาจจะใช้เวลาไปอีกปีถึงสองปีกว่าจะฉีดกันครบ และยังมีแนวโน้มที่ต้องกระตุ้นเข็มที่สามเข็มที่สี่ ซึ่งยังไม่ตอบโจทย์ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ฟ้าทะลายโจรและสมุนไพรในประเทศจะเป็นคำตอบหนึ่งที่จะมาช่วยให้ประชาชนปลอดภัยจากพิษโควิดได้” ดร.ณพลเดช กล่าว
Leave a Reply