“สมเด็จพระพุฒาจารย์” จัดปลูก”ฟ้าทะลายโจร” 1.35 หมื่นต้น ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2564 ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม พระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท และ ดร.ณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎร และนายกสมาคมการบินนภารักษ์ เข้าถวายแม่พันธุ์ฟ้าทะลายโจร จำนวน 1.35 หมื่นต้น แด่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อปลูกขยายพันธุ์และนำมาทำยาเพื่อมอบแด่พระภิกษุสงฆ์และประชาชน ผู้ติดเชื้อโควิด19 โดยจะเริ่มปลูกในโครงการโคกหนองนา เขาแม่ชี จ.นครราชสีมาในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 เพื่อกุศลถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติและเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พระสุธีวราภรณ์ กล่าวว่า อาตมาได้ต้นฟ้าทะลายโจรจากการรวมกันของพระและประชาชน ที่เห็นภัยของโควิด19 สำหรับในจังหวัดชัยนาท คณะสงฆ์ในหลายวัดก็ให้ชาวบ้านมาช่วยกันปลูกในพื้นที่วัดที่มีพื้นที่ว่างหากมีรายได้ก็สามารถเป็นรายได้ให้กับประชาชนสามารถจุนเจือครอบครัวในยามที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนี้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ประกาศจากสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชที่ 2/2564 ที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ให้วัดที่มีศักยภาพช่วยเหลือประชาชนในวิกฤติโควิด19 นี้ ล่าสุดขณะนี้ต้นฟ้าทะลายโจรที่ปลูกบางส่วนได้เติบใหญ่ เพราะด้วยได้น้ำดีฝนดี ทางคณะสงฆ์ได้จัดทำเป็นยาฟ้าทะลายโจรชนิดเม็ด และในวันนี้ถือเป็นโอกาสดีจึงได้นำมาถวายแด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ สำหรับต้นกล้าแม่พันธุ์ฟ้าทะลายโจรที่นำมาถวายนี้เป็นต้นกล้าแม่พันธุ์ อายุ 1-2 เดือน คาดว่าอีก 1 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวและออกดอกออกผล สามารถนำมาใช้งานได้

ด้าน ดร.ณพลเดช กล่าวว่าจากที่ตนได้ทำงานด้านพระพุทธศาสนามานานได้เห็นพระสงฆ์โดยการนำของเจ้าพระคุณสมเด็จพุฒาจารย์ ท่านเป็นผู้นำในการทำความดี ก็รู้สึกประทับใจ และการนำเอาสมุนไพรพื้นบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาขยายพันธุ์ นำมาแจกให้กับพระภิกษุสงฆ์และประชาชน ที่ตกทุกข์ได้ยากในยามบ้านเมืองอยู่ในยามทุพภิกขภัยจากภัยโรคร้ายคือโควิด19 สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องดี เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคณะสงฆ์อย่างบูรณาการ

“ก่อนหน้านี้ได้ทราบว่าพระสงฆ์ในวัดไตรมิตรได้ช่วยกันเพาะพันธุ์ต้นฟ้าทะลายโจรมาบ้างแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเราต้องใช้เงินจำนวนมากที่จะต้องนำเข้ายาจากต่างประเทศแต่ในขณะเดียวกันสมุนไพรในบ้านเราก็มีงานวิจัยเป็นมีผลในการรักษาเป็นที่ประจักษ์แล้ว ซึ่งจากต้นทุนที่เห็นได้ชัดว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยเมื่อเทียบกับยาฟาวิพิราเวียร์ มีต้นทุนที่แตกต่างกันคือ 180 ต่อ 4,800 บาท ต่อคน นั่นหมายถึงถ้าผู้ป่วยที่ติดเชื้อในปัจจุบันคือ 1 ล้านคน เรามีอัตราส่วนค่ายาที่แตกต่างคือ 180 ล้าน ต่อ 4.8 พันล้านบาท หรือเราจะมีเงินเหลือถึง 4,620 ล้านบาท เราสามารถนำเม็ดเงินเหล่านี้นำมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่มากที่จะเข้ามาเร็วๆ นี้และเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ทำการเกษตรอีกทาง ซึ่งการปลูกฟ้าทะลายโจรในครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันแม่แห่งชาตินี้อีกด้วย ตนจึงขออนุโมทนาฯ กับการทำงานของคณะสงฆ์โดยนโยบายของสมเด็จพระสังฆราช ที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในการช่วยเหลือภาครัฐและประชาชนเพื่อแก้ปัญหาโควิด19 นี้ไปได้อย่างมาก” ดร.ณพลเดช กล่าว

Leave a Reply