ชาวกาฬสินธุ์ร้อง”กมธ.กฎหมายสภาฯ สอบปมปลดเจ้าคณะจังวัดแถมฟ้องว่าที่เจ้าคณะที่มส.ตั้งแทน
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2564 ความคืบหน้ากรณีปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด ประกอบด้วย 1.พระราชปริยัติสุนทร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา 2.พระธรรมรัตนาภรณ์วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี และ 3.พระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แถลงถึงเหตุผลการปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด ว่า ได้แจ้ง มหาเถรสมาคม(มส.) ตลอดจนผู้ปกครองสงฆ์ไปแล้วถึงเหตุผลการปลด แต่เปิดเผยข้อมูลที่ถูกปลดไม่ได้
นายนิยม เวชกามา ลงพื้นที่กับนางบุญรื่น ศรีธนเนศ นายคงเดช ไชยศิรวามงคล และนายพีระเพชร ศิริกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้ากราบนมัสการ พระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) เจ้าคุณบัวศรี ที่วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ และพระญาณรักขิต หรือ เจ้าคุณแผน
จากนั้น ดร. นิยม ได้หารือกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.กาฬสินธุ์ ถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวกาฬสินธุ์ที่ร่วมลงนามคัดค้าน มติ มส. และได้รวมกันมายื่นหนังสือกับนายคงเดช ไชยศิรวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ ในฐานะรองกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ขอให้ตรวจสอบ มติ มส. ว่า เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามกฎหมาย จะเอาผิดกับใครได้บ้าง หรือใครควรจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ดร.นิยม กล่าวว่า ขณะนี้พุทธศาสนิกชนชาวกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียง ได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาคัดค้าน มติ มส มากกว่า 2 แสนรายชื่อแล้ว ในส่วนคณะสงฆ์(ธ) มีมากกว่า 200 รูป ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งปลดเจ้าคณะจังหวัดแบบไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน โดยแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่มาจาก จ.หนองคาย ซึ่งเป็นพระหนุ่มอายุพรรษายังน้อย ให้มาปกครองคณะสงฆ์กาฬสินธุ์ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามพรรษาอาวุโส มหาเถรสมาคมเป็นผู้ปกครองสงฆ์ควรเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าฆราวาส หรือหากจะปลด ก็ควรสอบให้เห็นความถูกผิดก่อนเสียก่อน
ดร.นิยม กล่าวต่อว่า ตนได้รับทราบจากเจ้าคุณพระญาณรักขิต ว่า คณะสงฆ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้มีมติร่วมกันทั้งจังหวัด ให้แจ้งความดำเนินคดีกับพระครูเล็ก เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย ว่าที่เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธ์ุ ฝ่ายธรรมยุต ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ สถานีตำรวจ สภ.สังคม จ.หนองคาย ใน 2 ข้อหา คือ
1.แอบอ้างเบื้องสูง 2.หมิ่นประมาท ใช้เอกสารอันเป็นเท็จ ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานไว้แล้ว หรือหากใครมีหลักฐานอื่นอีกก็นำมาเพิ่มได้ การดำเนินคดีในครั้งนี้เป็นสังฆามติ ให้ดำเนินการตามกฎหมายในทันที หลังจาก มส.ไม่ยอมนำคำคัดค้านของคณะสงฆ์ จ.กาฬสินธ์ุ (ธ) ไปพิจารณาทบทวนยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ส่วนจะดำเนินคดีตามช่องทางกฎหมายอื่นใดและต่อใครได้อีก ก็จะพิจารณาต่อไป เพื่อให้เกิดความถูกต้อง
ดร.นิยม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนที่สำนักพุทธแถลงข่าวถึงเหตุผลการปลด เจ้าคณะจังหวัดไปนั้น ไม่ได้ตอบคำถามอะไรมากกว่าเดิมเลย นอกจากเป็นการโยนกันไปโยนกันมาระหว่างสำนักพุทธกับมหาเถรสมาคมเท่านั้น ที่จริง ประชาชนอยากเห็นคำแถลงที่แสดงความชัดเจนว่า ตกลงแล้ว เจ้าคณะภาค เจ้าคณะหนได้ตั้งคณะกรรมการสอบท่านมาก่อนแล้วหรือไม่ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนอะไร หรือถ้ามีการสอบ ใครเป็นผู้สอบ ก็ควรเอาคำสั่งออกมาให้ประชาชนดู จะได้สิ้นสงสัย ไม่ปล่อยให้มหาเถรสมาคมและคณะสงฆ์กลายเป็นดินแดนสนธยา ทุกอย่างเต็มไปด้วยความมืดดำ ไม่ใช่มาแถลงว่า ” ปลดถูกต้อง มีหลักฐาน แต่เปิดเผยข้อมูลไม่ได้ อยากรู้ให้ไปถามเจ้าคณะผู้ปกครอง”
“เอาอย่างง่ายๆ ใกล้ๆ กรุงเทพฯนี่เอง เมื่อสำนักพุทธ แถลงว่า ให้ไปถามเจ้าคณะภาค เจ้าคณะหน ตนก็จะขอถามพระธรรมวชิเมธี เจ้าคณะภาค 1 วัดหงส์ ฝั่งธนบุรี และสมเด็จพระมหารัชชมงคลมุนี สมเด็จธงชัย วัดไตรมิตร เจ้าคณะหนกลาง ให้ประชาชนได้รับฟังร่วมกันว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบพระธรรมวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ตามกฎมหาเถรสมาคมหรือไม่ หากตั้งกรรมการสอบ รายชื่อคณะกรรมการ มีใครจากวัดใดบ้าง สอบแล้วผลเป็นอย่างไร ได้รายงานต่อมหาเถรสมาคมหรือไม่ เอกสารการรายงานว่าอย่างไร หากไม่ตั้งคณะกรรมการสอบ แต่มีมติปลด ทราบหรือไม่ว่า การกระทำเช่นนี้ผิดต่อจริยาพระสังฆาธิการอย่างร้ายแรง ถึงอย่างไร ตนเห็นว่า ความจริงเรื่องนี้ต้องได้รับคำตอบ เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของกรรมาธิการฯ ตนจะขอให้นำเอกสารดังกล่าวนี้มาประกอบคำชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย” ดร.นิยมกล่าว
Leave a Reply