กระทรวงมหาดไทย จับมือ ไทยเบฟ “รวมใจต้านภัยหนาว” สู่ปีที่ 22 วันที่ 28 ต.ค. 64 เวลา 14:00 น. ที่ห้องบอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ (นอร์ธปาร์ค) ถนนวิภาวดีรังสิตกรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานรับมอบผ้าห่ม ในพิธีส่งมอบผ้าห่มตามโครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 22″ จาก นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารบริษัทในเครือไทยเบฟ และสื่อมวลชน ร่วมในพิธี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในนามของพี่น้องคนไทยที่ประสบภัยหนาวในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือทุกครอบครัว ขอขอบคุณกลุ่มบริษัทไทยเบฟที่ให้เกียรติกระทรวงมหาดไทยเป็นภาคีเครือข่ายนำเอาความช่วยเหลือไปยังพี่น้องประชาชน เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าสังคมไทยเราอยู่รอดได้แน่ ถ้าคนที่เข้มแข็งกว่าไม่นิ่งเฉยกับความทุกข์ของพี่น้องประชาชนหรือคนในสังคม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับเครือข่าย ทำสิ่งที่ดีให้กับประเทศชาติของเรามาอย่างยาวนาน มิใช่เพียงแต่การมอบไออุ่นให้กับพี่น้องคนไทย ยังมีอีกหลายโครงการที่ยังขาดแคลน อัตคัดขัดสนในเรื่องของเครื่องกันหนาว และยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่ท่านผู้บริหารและพนักงานของกลุ่มไทยเบฟ ได้ช่วยเหลือและร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวต่อว่า สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิตในช่วงฤดูหนาว คือ “ความอบอุ่น” ไทยเบฟได้ให้ความอบอุ่นกับพี่น้องคนไทย มายาวนานกว่า 22 ปี และยังได้ช่วยทำเป็นต้นแบบในการที่จะช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนที่เป็นปัญหาใหญ่ของมวลมนุษยชาติของเรา แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในการลดปัญหาขยะและปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้ว่าต้องมีต้นทุนในการดำเนินการเพิ่มมากขึ้นก็ตาม จึงต้องขออนุโมทนาบุญที่ไทยเบฟได้ช่วยมวลมนุษยชาติของเรามา ณ โอกาสนี้ด้วย โดยในส่วนผ้าห่มสีเขียว จำนวน 200,000 ผืน นี้ จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนไม่ต่ำกว่า 200,000 ครอบครัว จะได้มีความสุข สิ่งหนึ่งที่พวกเราจะประทับใจไม่รู้ลืมคือแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข แววตาที่เต็มไปด้วยความดีใจ โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุหรือผู้ที่มาได้รับการมอบน้ำใจอันดีงามจากไทยเบฟและภาคีเครือข่าย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่าย ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรืออาสาสมัครในพื้นที่ ทุกคนมีหัวใจ มีเป้าหมาย และมีความมุ่งหวังที่เปี่ยมล้นในการทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งสิ่งที่ไทยเบฟหยิบยื่นให้นี้ เป็นสิ่งที่เติมเต็มภาคกิจของกระทรวงมหาดไทยและภาคีเครือข่าย และสิ่งเหล่านี้จะยังคงได้รับการสานต่อ และจะดำเนินการต่อไป และชาวมหาดไทยจะได้ช่วยกันทำให้สังคมเป็นสังคมที่น่าอยู่ เป็นสังคมที่แสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่า “เราไม่ทอดทิ้งกัน” เราพร้อมที่จะช่วยเหลือกัน เพื่อที่จะให้กลุ่มคนที่มีความแข็งแรงได้เห็นและได้เข้ามาร่วมในการยื่นความรัก ความเมตตา ความอบอุ่น หรือความช่วยเหลือ ให้กับพี่น้องคนไทยเพิ่มมากขึ้นต่อไป เราจะช่วยกันส่งรอยยิ้ม และช่วยกันทำให้ชีวิตที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้มีความอบอุ่น สามารถสร้างประเทศชาติ สร้างครอบครัวของพี่น้องคนไทยที่ประสบภัยหนาว ให้มีอนาคตที่สดชื่นแจ่มใส และขอให้โครงการนี้ดำเนินในปีต่อ ๆ ไปไม่รู้จบตลอดไป ทางด้าน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่เคียงข้าง โครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” มาอย่างยาวนาน เป็นเวลากว่า 22 ปี ที่ได้ร่วมกันส่งมอบรอยยิ้ม และความอบอุ่น ไปยังผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่ปัจจุบันยังร่วมด้วยเครือข่ายพันธมิตรอีกหลายภาคส่วนที่ได้ร่วมเดินทาง เพื่อส่งมอบความอบอุ่นภายใต้ “ผ้าห่มผืนเขียว” ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยความมุ่งมั่น และเต็มเปี่ยมด้วยหัวใจแห่งการ “ให้” ตลอดมา ที่ได้สานต่อปณิธานแห่งการ “ให้” ของท่านประธาน และท่านรองประธาน คุณเจริญ – คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่ได้กล่าวไว้ว่า “คนไทยให้กันได้” จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ โครงการไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และได้แผ่ขยายสู่สังคมแห่งการให้และการแบ่งปัน จนเกิดเป็นพลังแห่งความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้แนวคิด “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน” นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าวต่ออีกว่า จากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้น ถึงวันนี้นับเป็นเวลา 22 ปีเต็ม ที่ผ้าห่มผืนเขียว จำนวน 4,400,000 ผืน ได้ช่วยห่มคลุมให้ความอบอุ่นคลายหนาวสู่พี่น้องผู้ประสบภัยหนาว ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมกับการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ทั้งการศึกษา กีฬา และสาธารณสุข ไปพร้อมกัน และเพื่อเป็นการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ปกป้อง และรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เราจึงได้สร้างสรรค์กระบวนการผลิตผ้าห่มผืนเขียว ด้วยการนำขวดพลาสติกบรรจุเครื่องดื่มที่ทำจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลหรือ Recycled PET (RPET) ที่สามารถช่วยลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต ลดปัญหาขวดพลาสติก แต่ยังคงคุณภาพของ “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” นี้ ให้มีความนุ่ม และอบอุ่นเหมือนเช่นเคย ด้วยนวัตกรรม Eco Friendly Blanket ที่ยังช่วยลดปริมาณขยะจากขวดพลาสติกได้มากถึง 7.6 ล้านขวดต่อปี ที่นำมาผลิต “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” ได้มากถึงปีละจำนวน 200,000 ผืน ดังนั้นผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลกนี้ ทำให้เราสามารถนำขยะจากขวดพลาสติกกลับสู่ระบบรีไซเคิลได้สำเร็จแล้วจำนวน 15.2 ล้านขวด “ไทยเบฟ ขอขอบพระคุณพันธมิตรทุกภาคส่วน อาทิ บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด, โรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร, บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท เบอร์ลี ยุคเกอร์ จำกัด, บริษัท เสริมสุข จำกัด, บริษัท เอฟแอนด์เอ็นแดรี่ส์ (ประเทศไทย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงมหาดไทย ที่ให้ความกรุณาเป็นกำลังหลักที่สำคัญตลอดมา และสำหรับปีนี้คาราวาน “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก ” พร้อมแล้วที่ออกเดินทางไปส่งมอบรอยยิ้ม และความอบอุ่นให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยหนาวกว่า 228 อำเภอ 15 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน” ไทยเบฟ เชื่อมั่นในการ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” ด้วยพลังแห่งความร่วมมืออันแข็งแกร่งของทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อน โครงการไทยเบฟรวมใจต้านภัยหนาว พร้อมขยายเครือข่ายเพื่อสร้างสังคมแห่งการ “ให้” ที่ยั่งยืน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวทิ้งท้าย จำนวนผู้ชม : 119 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author มอญหนองจอกร้องสื่อ!!ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าอาวาส อุทัย มณี พ.ย. 22, 2018 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ชาวไทยเชื้อสายรามัญจาก..ชุมชนไทยรามัญคลอง… โปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะจำนวน 3 รูป อุทัย มณี ก.ค. 22, 2020 มีคำประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 22 กรกฏาคม… โรงเรียนดรุณวิทยาเมืองน่าน “มีอะไรดี” ปลัดมหาดไทยจึงยกย่อง?? อุทัย มณี ก.ค. 07, 2023 วันที่ 7 ก.ค. 66 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยว่า… “ยังไม่แผ่ว” สมาพันธ์ชาวพุทธฯ เดินหน้าให้ข้อมูล กมธ.ปราบโกง ปมถอนถอน 3 เจ้าคณะจังหวัด อุทัย มณี ธ.ค. 20, 2021 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย… “เทวัญ”ได้แล้ว! ตัวเลข 40,000 วัดกระทบภัยโควิด-19 สัปดาห์หน้าได้ความชัดเจนจาก พศ. ชง ครม.ช่วย อุทัย มณี พ.ค. 06, 2020 วันที่ 6 พ.ค.2563 เวลา 08.30 น. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี… ส่อง!!ค่าใช้จ่ายฌาปนสถาน ทอ.ใน “วัดพระศรีมหาธาตุ” พร้อมอ่านคำสัมภาษณ์พระเลขานุการวัด อุทัย มณี มิ.ย. 14, 2021 'วัดพระศรีฯ' หวั่นเกิดความเข้าใจผิด ตั้ง ‘กรรมการสงฆ์’… “อิทธิพล” เปิดเผย “ครม.” รับรองวัดคาทอลิกเพิ่มอีก ๓๔ วัด อุทัย มณี พ.ย. 08, 2022 วันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม… บึ้ม!! ชายหาดแหลมสมิหลาคาดฝีมือกลุ่ม BRN อุทัย มณี ธ.ค. 27, 2018 หน่วยข่าวด้านความมั่นคงคาดว่า ระเบิดที่ชายหาดแหลมสมิหลาเป็นฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ต้องการทำลายเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวของ… ยธ.ถวายประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ เข็มวิทยฐานะการบริหารงานยุติธรรมระดับสูง แด่ “อธิการบดี – ผอ.หลักสูตรสันติศึกษา” มจร อุทัย มณี เม.ย. 04, 2022 วันที่ 4 เมษายน 2565 พันตำรวจโท ดร. พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม… Related Articles From the same category เจาะมติผู้บริหาร มจร 7 เรื่องครอบคลุมแค่ไหน ?? หลังจากเวปข่าวออนไลน์ thebuddh ได้เสนอข่าวผลการประชุมของ ผู้บริหารมหาวิทยาลัย… เจ้าคณะชัยนาทนำปลูกฟ้าทะลายโจร เตรียมขยายพื้นที่ 20 วัด เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่บริเวณวัดหนองพังนาคตำบลเสือโฮกอำเภอเมืองจังหวัดชัยนาทคณะสงฆ์จังหวัดชัยนาทร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกระชายขาวรวมไปถึงพืชสมุนไพรอื่นๆที่มีสรรพคุณเป็นยาเพื่อนำมาผลิตเป็นยาต้านโควิด-19และแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นยาทางเลือกในการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านมีรายได้จุนเจือครอบครัว… ส.ส.นิยม เวชกามา “กัดไม่ปล่อย” คดีเงินทอนวัด ซัดนายกรัฐมนตรีอาจผิด ม.157 พร้อมตั้งคำถามอีก 33 วัดฟ้องเมื่อไร?? วันที่ 25 กันยายน 2564 เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายนที่ผ่านมา นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีถึงเรื่องที่มีประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๑๕ ข ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เรื่องถอดถอนสมณศักดิ์ ของพระเถระทั้ง ๗ รูป เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๙ วรรคสอง ทำให้ไม่มีผลบังคับตามความในมาตรา ๕ วรรคแรก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และยังเข้าองค์ประกอบตามบทบัญญัติมาตรา ๑๖๐ (๕) ของรัฐธรรมนูญว่าด้วยคุณสมบัติของรัฐมนตรีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีรายละเอียดของกระทู้ถามดังนี้… เชิญร่วมถกถอดบทเรียน “Sir Edwin Arnold” ต้นแบบนักวิชาการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 พระปลัดสรวิชญ์ อภิปญฺโญ,ผศ.ดร.ผู้อำนวยการหลักสูตรจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว… “เจ้าคุณประสาร” มองการเลือกตั้งแล้วถามพรรคการเมือง ศาสนาจะอยู่ตรงใหนในสังคมไทย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร…
Leave a Reply