วันที่ 21 พ.ย. 64 หลังจากเมื่อวานนี้มีภาพพระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์คณะธรรมยุตรูปใหม่เดินทางเข้าจังหวัดกาฬสินธุ์ วันนี้ปรากฎมีญาติธรรมนับร้อยรวมตัว ชุมนุมตะโกนขับไล่ “พระเล็ก” พ้นกาฬสินธุ์ กลางสนามสอบนักธรรมโท – เอก ภายในวัดประชานิยมอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ หลังทราบข่าวจะมาตรวจสนามสอบ ชี้หาก “พระเล็ก” เข้ามาวัดประชานิยม ถือเป็นการเหยียบย่ำจิตใจคนกาฬสินธุ์ ประกาศชุมนุมขอปกป้องพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยชีวิต เตือนอนาคตยกระดับขับไล่รุนแรง พร้อมแนะให้ลาออก เป็นหนทางที่ดีที่สุดของ “พระเล็ก” เพราะได้ทำให้คณะสงฆ์แตกแยก และทำลายศรัทธาประชาชนจนแตกสามัคคี พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวรู้อยู่ที่ไหนยกพวกขับไล่ที่นั่น

นสพ.แนวหน้ารายงานว่า วันนี้เมื่อเวลา 14.00 น.มีรายงานว่า ที่วัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งวันนี้มีการเปิดสนามสอบพระ ในระดับนักธรรมโทและนักธรรมเอก ภายในวิหารเทศรังสี โดยมีกระแสข่าวว่า “พระเล็ก” หรือ พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย หรือ เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) รูปใหม่ มาควบคุมดูแลสนามสอบ โดยรอบบริเวณในตัววัด ได้เกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้น เนื่องจากกลุ่มญาติธรรม และประชาชนกว่าหนึ่งร้อยคนเดินทางมาปักหลักชุมนุมขับไล่ “พระเล็ก” อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแผ่นดินสงฆ์สายป่าทางภาคอีสาน

โดยกลุ่มญาติธรรมและประชาชนเดินชูป้ายด้วยความไม่พอใจและตะโกนขับไล่“พระเล็ก”พร้อมติดป้ายหน้าวัด หลังทราบข่าวว่าจะเดินทางเข้ามาตรวจสนามสอบที่วัดประชานิยม ซึ่งเป็นวัดที่ เจ้าคุณบัวสี เป็นเจ้าอาวาสวัด ที่ถือว่าเป็นการทำร้ายจิตใจ เหยียบย่ำน้ำใจ ศักดิ์ศรีของคนกาฬสินธุ์ ทั้งที่มีประชาชนปักป้ายขับไล่ทั้งจังหวัด เพราะไม่ต้องการให้ มหาเถรสมาคม หรือ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งพระที่มีอธิกรณ์มาดำรงตำแหน่งนี้ อีกทั้งปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้ญาติธรรม ประชาชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงพ่อเจ้าคุณบัวศรี หมดความอดทนและประกาศจะขอปกป้องพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยชีวิต ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก็ตาม

ด้านนายประวิช สินธุศิริ อายุ 61 ปี ข้าราชการบำนาญ เลขที่ 2 ถนนสิทธิเดช เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การปลดเจ้าคุณบัวศรีได้สร้างความจำช้ำน้ำใจให้กับคระลูกศิษย์ ญาติธรรมและคนกาฬสินธุ์ ทุกหมู่เหล่า เพราะ มหาเถรรสมาคมและสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่มีเหตุผลที่เป็นธรรมในการปลด แต่กลับมีเหตุผลในการตั้ง “พระเล็ก” มาเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ องค์ใหม่ ซึ่งทุกวันการเคลื่อนไหวในการล่ารายชื่อถวายฎีกา คนกาฬสินธุ์ทุกคนยังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของ “พระเล็ก” ซึ่งทราบว่าวันลอยกระทงที่ผ่านมายังแอบไปกราบ หลวงปู่หา ที่วัดสักกาวัน ไดโนเสาร์ อ.สหัสขันธ์ เพื่อสร้างสัญลักษณ์ให้ตัวเองว่าจะเข้ามาบริหารสงฆ์กาฬสินธุ์ ทั้งที่ประชาชนและคณะสงฆ์ไม่ต้อนรับ

“ส่วนวันนี้ได้รู้ข่าวว่า “พระเล็ก” จะเข้ามาตรวจเยี่ยมสนามสอบ ญาติธรรมและประชาชนที่รู้ข่าว จึงได้พากันมารวมตัวขับไล่ เพราะไม่ต้องการให้พระเล็กมาเหยียบวัดรวมถึงแผ่นดินกาฬสินธุ์ ก็เพราะการมาไม่สง่างาม ไม่เหมาะสม จะสร้างปัญหาแตกแยกในคณะสงฆ์ “พระเล็ก” จึงควรที่จะลาออก แถมยังมากล่าวหานักข่าวว่าเป็นคนสร้างความแตกแยก ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่มีใครต้อนรับก็ขอให้พระเล็กออกไป ปัญหาทุกอย่างก็จะจบสิ้น”  นายประวิช กล่าว

ขณะที่นางมะลิ ระเลิศ อายุ 77 ปี ชาวบ้านเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อการถอดถอนไม่มีความยุติธรรมกับเจ้าคุณบัวศรี ยืนยันเลยว่าคนกาฬสินธุ์ไม่มีใครต้อนรับ “พระเล็ก” อย่างแน่นอน เพราะท่านไม่มีอะไรผูกพันหรือเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ที่คนกาฬสินธุ์รู้จักเลย อีกทั้ง ญาติธรรมหรือพระสงฆ์ก็เห็นว่าหากปลดหลวงพ่อเจ้าคุณบัวศรีไปแล้วก็ควรที่จะตั้ง เจ้าคุณหลวงพ่อแผนแทน เพราะจะไม่ทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อไป

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ภายในวัดไม่พบ เจ้าคุณบัวศรี ซึ่งได้เดินทางออกจากวัดไปได้สองวันแล้วเพื่อเข้าปฏิบัติธรรมภายในป่า ทั้งนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับสนามสอบนักธรรมโทและนักธรรมเอก สนามสอบที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จะเปิดให้พระสอบเป็นเวลา 3 วันคือตั้งแต่วันที่ 21-23 พฤศจิกายนนี้ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันจัดเวรยามปักหลักที่หน้าศาลาเทศรังสี และทางเข้าวัด เพื่อเฝ้ารอขับไล่ตลอดทั้งสามวันนี้ พร้อมทั้งจะติดตามความเคลื่อนไหวของพระเล็กในทุกฝีก้าว โดยไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากพระเล็กจะมาพร้อม รปภ.หรือจะมี ทหาร ตำรวจ เข้ามายุ่งเกี่ยวก็จะขอสู้และขับไล่พระเล็ก เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีพ่อ