วันที่ 7 ธ.ค. 64 วานนี้ เวลา 09.00 น. พระเทพวิสุทธิคุณ, ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง, เจ้าอาวาสวัดหนองกุง เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น, รองประธานสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณาชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น เมตตาเป็นประธานเปิด โครงการสัมมนาบัณฑิตรุ่นที่ 66มหาบัณฑิต รุ่นที่ 31 และดุษฎีบัณฑิต รุ่นที่ 17 และพิธีซ้อมรับปริญญา ประจำปี 2564 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น โดยมี พระโสภณพัฒนบัณฑิต รองอธิการบดีวิทยาเขตขอนแก่น,รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ถวายรายงานต่อประธานพิธี ความว่า
ในนามคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต รู้สึกปลาบปลื้มปีติ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่พระเดชพระคุณได้เมตตาเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาบัณฑิตรุ่นที่ 66 มหาบัณฑิต รุ่นที่ 31และดุษฎีบัณฑิต รุ่นที่ 17 และพิธีซ้อมรับปริญญา ประจำปี 2564 เกล้าฯ ขออนุญาตถวายรายงานกิจการของมหาวิทยาลัยโดยสังเขป ดังนี้
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทย เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของคณะสงฆ์ เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ซึ่งสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสถาปนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2430 โดยมีพระราชปณิธาน ให้เป็นสถานศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูง สำหรับพระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์
ในส่วนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ได้เปิดจัดการศึกษาตั้งแต่ พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา รวมระยะเวลา34 ปี การจัดการศึกษามีพัฒนาการมาเป็นลำดับ ปัจจุบันมีหน่วยงานในสังกัด ประกอบด้วย (1) วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น (2) สำนักวิชาการวิทยาเขตขอนแก่น (3) สำนักงานวิทยาเขตขอนแก่น (4) วิทยาลัยสงฆ์เลย (5) วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด และ (6) วิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม ภายใต้พันธกิจ 5 ประการคือ ผลิตบัณฑิต วิจัยและพัฒนา บริการวิชาการแก่สังคม ทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล ในพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2564 ในครั้งนี้ สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณาชวิทยาลัย มีมติอนุมัติให้ปริญญาบัณฑิตรุ่นที่ 66 มหาบัณฑิต รุ่นที่ 31 ดุษฎีบัณฑิต รุ่นที่ 17 รวมผู้สำเร็จการศึกษาทั้งสิ้น จำนวน 440 รูป/คน
สำหรับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะมีงานประสาทปริญญาระดับปริญญาตรีในวันที่ 11 ธันวาคม 2564 เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท -เอก จะมีการประสาทในวันที่ 12 ธันวาคม 2564 เริ่มต้นเวลา 13.00 น.เช่นเดียวกัน และพร้อมกันนี้จะมีการปริญญาดุษฎีบัณฑิต,เข็มเกียรติคุณในวันและเวลาเดียวกันนี้
และปีนี้สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้พระกรุณาโปรดให้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนพระองค์ในการประสาทปริญญาประจำปี 2564 ทั้ง 2 วัน ภายใต้การป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือโควิด -19 อย่างเคร่งครัด อาทิ ผู้เข้ารับจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม,มีผลการตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชม.และมีผู้ติดตามได้เพียงท่านละ 2 รูป/คนเท่านั้น นอกจากนี้มีมาตรการป้องกันตามมาตรฐานทั่วไป
Leave a Reply