วันที่ 20 เม.ย. 65 เวลา 08.00 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร นางวาสนา ศิลป์เบ็ญจพร รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยเป็นการประชุมผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในระบบ Zoom Meeting มี นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายอนุชา อินทศร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา และคณะอนุกรรมการฯ ร่วมประชุม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนฟื้นฟูลำน้ำสาธารณะและคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้แม่น้ำลำคลองมีความสะอาด มีทัศนียภาพที่สวยงาม ส่งผลให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข โดยเริ่มพัฒนาพื้นที่คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งที่ผ่านมาด้วยบริบทของสังคมและความร่วมไม้ร่วมมือของทุกภาคส่วน ในพื้นที่ 3 จังหวัด ทำให้คุณภาพของน้ำในคลองอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งมีนัยยะที่สำคัญว่า “ทุกภาคส่วนต้องช่วยเร่งรัดขับเคลื่อนงานให้ใกล้ชิดมากกว่าเก่า” และขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องสื่อสารเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจ ปัญหาอุปสรรคเพื่อที่จะชักชวนให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้ช่วยกันดูแลน้ำในคลองให้มีคุณภาพที่ดีส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตที่ดีต่อไป

นางวาสนา ศิลป์เบ็ญจพร รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คลองแสนแสบ มีความยาวตลอดสายประมาณ 74 กิโลเมตร เริ่มจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กรุงเทพมหานคร ไปทางทิศตะวันออกจนเชื่อมกับคลองบางขนากไหลไปลงแม่น้ำบางปะกงในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยคลองแสนแสบช่วงที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ และมอบให้สำนักการระบายน้ำใช้ประโยชน์ด้านการระบายน้ำ มีความยาวประมาณ 47.5 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 20 –30 เมตร มีระดับขุดลอกเฉลี่ย -3.00 เมตรเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยคลองแสนแสบและคลองสาขาครอบคลุมพื้นที่ 21 เขตการปกครอง ได้แก่ เขตดุสิต เขตราชเทวี เขตปทุมวัน เขตดินแดง เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา เขตจตุจักร เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตบางเขน เขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง เขตสวนหลวง เขตบางกะปิ เขตมีนบุรี เขตคันนายาว เขตสะพานสูง เขตคลองสามวา เขตบึงกุ่ม และเขตหนองจอก และ มีคลอง ล้าราง และคูน้ำบริเวณชุมชนเมืองที่สำคัญไหลมาเชื่อมต่อหลายสาย จำนวนรวม 101 สาย ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาแหล่งกำเนิดมลพิษริมคลองแสนแสบและคลองสาขา 3 แหล่ง ตามลำดับ คือ 1) กิจกรรมครัวเรือนหรือชุมชน ร้อยละ 70 2) โรงงาน สถานประกอบการต่าง ๆ อาคารขนาดใหญ่ ร้อยละ 29 และการเดินเรือและการสะสมของตะกอนท้องคลอง ร้อยละ 1 ทั้งนี้ จากการตรวจวัดคุณภาพน้ำโดยรวมตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าถึงบางกะปิ อยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก โดยมาตรฐานค่า BOD ต้องน้อยกว่า 4 มิลลิกรัม/ลิตร แต่วัดค่าได้ 14 มิลลิกรัม/ลิตร ส่วนค่า DO มาตรฐานต้องมากกว่า 2 มิลลิกรัม/ลิตร แต่ค่าที่จัดเก็บได้ 1.2-1.8 มิลลิกรัม/ลิตร จึงยังไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ ด้วยการปรับเปลี่ยนการเดินเรือโดยสารดีเซลเป็นเรือโดยสารไฟฟ้า เพื่อลดปัญหามลภาวะทางน้ำที่เกิดจากการรั่วของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเดินเรือ พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางน้ำ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและตรวจสอบอาคารและกำกับดูแลโรงงาน และสำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเสียจากบ้านเรือนและชุมชน แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 1) ระยะเร่งด่วน ด้วยการติดตั้งถังดักไขมันให้กับบ้านเรือนและชุมชนริมคลองแสนแสบและคลองสาขา ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน (Onsite) และก่อสร้างท่อรวบรวมน้ำเสียเพื่อรวบรวมน้ำเสียจากจุดปล่อยน้ำเข้าสู่โรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดงและโรงควบคุมคุณภาพน้ำมีนบุรี 1 และ 2) ระยะยาว ด้วยการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสีย และจากการสำรวจจำนวนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองแสนแสบและคลองสาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มี.ค. 65) มีจำนวน 4,929 ราย รื้อย้ายแล้ว 2,605 ราย ยังไม่รื้อย้าย 2,324 ราย ซึ่งสำนักงานเขตได้ดำเนินการเจรจาและขอความร่วมมือให้เจ้าของสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำรื้อย้ายส่วนที่รุกล้ำออกจากแนวเขตคลอง ส่วนผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือก็ได้ดำเนินการใช้มาตรการทางกฎหมาย


Leave a Reply