วันที่ 23 พ.ค. 65 วานนี้เมื่อช่วงค่ำที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 1 ที่ได้คะแนนนำในการรายงานผลการนับคะแนนล่าสุด เปิดแถลงข่าวหลังปิดหีบเลือกตั้ง
โดย ชัชชาติกล่าวถึง สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ที่โทรมาแสดงความยินดี และรับปากว่าจะดำเนินการร่วมกันถ้ามีโอกาส รวมถึงถ้าสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาส ต่อมา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลได้โทรมาแสดงความยินดี และบอกว่าถ้ามีโอกาสก็อยากทำงานร่วมกับ ส.ก.พรรคก้าวไกล ซึ่งวิโรจน์ก็ยินดีที่จะทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของชาวกรุงเทพฯ มีการฝากนโยบายต่างๆ ย้ำว่าต้องก้าวข้ามความแตกแยก และทำให้กรุงเทพฯ เดินหน้าไม่ได้
ชัชชาติกล่าวอีกว่า ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศ ตนจึงยังพูดเรื่องคะแนนอะไรไม่ได้ แต่วันนี้มีความหมายกับตนเป็นการส่วนตัว เพราะเมื่อ 8 ปีที่แล้วที่ตนอยู่ในเหตุการณ์ที่ถูกทหารคลุมหัว มัดมือ และนำตัวไปยังสถานที่ที่ไม่ทราบว่าเป็นที่ใด แต่ทั้งหมดนี้ตนไม่ได้รู้สึกโกรธ แค้น หรือเกลียด แต่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเราต้องให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น และนี่เป็นความทรงจำที่เตือนใจว่าเมื่อใดที่ประชาชนทะเลาะ เกลียด โกรธ ซึ่งกันและกัน สุดท้ายแล้วจะมีกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์ และบอกว่าเราเห็นต่างกันได้ แต่อย่าโกรธ อย่าเกลียด อย่าสร้างความเกลียดชังซึ่งกันและกัน ตนคิดว่านี่คือบทเรียนที่สำคัญ
หากตนได้รับการประกาศรับรองให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ ก็พร้อมเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคน ไม่ว่าท่านใดจะเลือกหรือไม่เลือก ตนก็ต้องรับใช้เหมือนกัน เพราะถือว่าเป็นตัวแทนของคนกรุงเทพฯ อนาคตต่อไปคิดว่าเรามาเดินร่วมกัน เราเห็นต่างกันได้ แต่อย่าเกลียดอย่าทะเลาะกัน เลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตยซึ่งเราผ่านจุดนั้นไปแล้ว คนไหนได้สิทธิมาดูแลประชาชนก็ต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
“กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่เต็มไปด้วยความหวัง มีความสวยงาม มีสิ่งที่ดี คุณค่ามากมาย แต่ที่ผ่านมามีเหตุการณ์หลายเรื่องที่ทำให้เพชรเม็ดนี้ไม่ได้รับการเจียระไน ผมก็อาสาเป็นผู้นำแห่งความหวังให้ทุกคนหากได้เป็นผู้ว่าฯ และขอให้ทุกคนเดินร่วมกันไป ตนพร้อมจะเดินไปกับทุกคน” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติยังกล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกตื้นตันใจ และคิดถึงผู้สมัครคนอื่นๆ ที่เดินทางร่วมกันมากว่าสองเดือน ผู้สมัครทุกท่านมีข้อดีที่ตนจะน้อมรับมาและรวมกัน ต้องเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่มาเป็นคำตอบของเมือง ส่วนประเด็นทีมบริหารขอดูผลภาพรวม จะได้ปรับให้เหมาะสม แต่จะประกาศแน่ในอีกวันสองวัน
ที่มา THE STANDARD
Leave a Reply