ถามมาตอบไป: กระเทยบรรลุธรรมได้ไหม ?

วันที่ 26 ก.ค. 65  เพชบุ๊คชื่อ WattanaWattana Paññādīpo  ซึ่งเป็นเฟชบุ๊คของ พระมหาวัฒนา ปญฺญาทีโป ป.ธ.๙,ดร. อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีพุทธโฆส ได้โพสต์ตอบคำถามว่า “กระเทยบรรลุธรรมได้ไหม ?”  ดังนี้

ข้าพเจ้าเอาคำของพระพุทธเจ้ามาตอบเลยว่า…บรรดาบุคคลผู้เป็นอภัพพบุคคล ๑๑ ประเภท เหล่านี้ถูกห้ามโดยเด็ดขาด คือ

ปณฺฑโก อุภโตพฺยญฺชนโก เถยฺยสํวาสโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ติรจฺฉานคโต มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก โลหิตุปฺปาทโก สงฺฆเภทโก ภิกฺขุนีทูสโกติ อิเม ปน เอกาทส ปุคฺคลา มีบัณเฑาะก์ (กะเทย) อคนสองเพศ คนปลอมบวช คนที่บวชเป็นพระแต่ไปเข้าศาสนาอื่น(ทั้งที่ยังบวช) สัตว์เดรัจฉาน(นาค) คนฆ่าแม่ คนฆ่าพ่อ คนฆ่าพระอรหันต์ คนทำร้ายพระพุทธเจ้าจนเลือดออก คนทำสังฆเภท และคนข่มขืนภิกษุณี  พระพุทธเจ้าทรงตรัส ใช้คำประโยคเดียวกันว่า  ตรัสกับนาคปลอมบวชว่า  ติรจฺฉานคโต  ภิกฺขเว อนุปสมฺปนฺโน  น  อุปสมฺปาเทตพฺโพ  อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ ฯ แปลว่า ภิกษุทั้งหลายเอ๋ย อนุปสัมบัน คือ สัตว์ดิรัจฉาน ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้ฉิบหายเสีย.(ให้สละเพศไป)  วิ.มหา.๔/๑๑๑/๑๗๖.  https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=4&A=3517&Z=3550

 

ตรัสกับ กะเทยว่า  ปณฺฑโก ภิกฺขเว อนุปสมฺปนฺโน  น  อุปสมฺปาเทตพฺโพ  อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ ฯ

ภิกษุทั้งหลายเอ๋ย กะเทย ที่เป็นอนุปสัมบัน พวกเจ้าห้ามให้อุปสมบท (ถ้า)เป็น อุปสัมบัน(ภิกษุ)แล้ว พวกท่านจงให้ฉิบหายเสีย ฯ

ส่วนพวกนาคที่ปลอมมาบวชเพราะอยากพ้นจากสภาพนาคกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ พระพุทธเจ้า จึงตรัสแนวทางทำความดี สำหรับนาค อภัพพบุคคล ไว้ว่า ตุเมฺห ขฺวตฺถ นาคา  อวิรุฬฺหิธมฺมา  อิมสฺมึ  ธมฺมวินเย  คจฺฉ  ตฺวํ  นาค ตตฺเถว  จาตุทฺทเส    ปณฺณรเส   อฏฺฐมิยา   จ   ปกฺขสฺส   อุโปสถํ อุปวส  เอวํ   ตฺวํ   นาคโยนิยา   จ  ปริมุจฺจิสฺสสิ  ขิปฺปญฺจ  มนุสฺสตฺตํ ปฏิลภิสฺสสีติ   ฯ   อถโข   โส   นาโค   อวิรุฬฺหิธมฺโม  กิราหํ  อิมสฺมึ  ธมฺมวินเยติ   ทุกฺขี   ทุมฺมโน   อสฺสูนิ   ปวตฺตยมาโน   วิสฺสรํ  กริตฺวา ปกฺกามิ   ฯ

“พวกเจ้าเป็นนาค ไม่มีความงอกงามในพระธรรมวินัยนี้ ไปเถิด นาค เจ้าจงเข้าจำอุโบสถในดิถีที่ ๑๔ ดิถีที่ ๑๕ และดิถีที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นแหละ ด้วยอุบายอย่างนี้ เจ้าจักพ้นจากกำเนิดนาค และได้อัตภาพมนุษย์ฉับพลัน”

นาคครั้นได้ทราบว่าตนไม่มีความงอกงามในพระธรรมวินัยนี้แน่นอน ก็มีทุกข์เสียใจ หลั่งน้ำตาส่งเสียงดังหลีกไป

ประเด็นเรื่องสามารถบรรลุธรรมได้หรือไม่ ในส่วนของบัณเฑาะก์ พระพุทธเจ้า ไม่ได้ตรัสเหมือนกับที่ตรัสกับนาค แต่เมื่อพิจารณาจาก กลุ่มบุคคลที่ทรงระบุว่า ห้ามบวชโดยเด็ดขาด ๑๑ จำพวก กะเทยกับอุภโตพยัญชนก(คนมีสองเพศในร่างเดียวกัน) ก็รวมอยู่ในกลุ่มนี้ จึงสามารถสรุปได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถบรรลุธรรมใดๆได้ในชาตินี้ สืบเนื่องจากขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่เกิด เพราะอกุศลวิบากบ้าง หรือเพราะทำกรรมหนักบางอย่างที่เป็นตัวทำลายอุปนิสัยปัจจัยแห่งการบรรลุธรรมได้

ประเด็นต่อมา ธรรมที่บรรลุ คืออะไร ? โดยทั่วไปอุตตริมนุสสธรรม คือธรรมอันยิ่งยวดเหนือมนุษย์ทั่วไปจะรู้ได้ มีหลายประการ ในปาราชิกข้อที่ ๔ ได้กล่าวถึง อุตริมนุสสธรรมไว้ว่า ฌานํ วา วิโมกฺขํ วา สมาธึ วา สมาปตฺตึ วา มคฺคํ วา ผลํ วา

ได้แก่ การอวดอ้าง ฌาน หรือ วิโมกขธรรม หรือ  สมาธิ หรือ สมาบัติ หรือ มรรค หรือ ผล(นิพพาน) โดยการน้อมตนเข้าไปหาธรรมเหล่านี้ ก็ตามหรือ น้อมธรรมเข้ามาในตกก็ตาม (ถ้าไม่ได้บรรลุ) ย่อมเป็นปาราชิก

หมายความว่า ธรรมเหล่านี้เป็นเป้าหมายของการบวช เป็นตัววัดผลของการบวชในพระพุทธศาสนา คือสิ่งที่ผู้บวชต้องไปให้ถึง ต้องเข้าถึง จึงจะเรียกว่า ได้ประสบผลสัมฤทธิ์ในการบวช ในคำอธิบาย ท่านกล่าวว่าแม้แต่มรรคภาวนา(การเจริญภาวนา ธรรมที่จะนำไปสู่การบรรลุ เช่น สติปัฏฐาน) ก็ถือว่าเป็น อุตตริมนุสสธรรม ด้วย

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ทั้งนาค และบัณเฑาะก์ คือคนที่ไม่สามารถจะบรรลุธรรมเหล่านี้ได้เลยในชาตินี้

#นาค #กะเทย #บัณเฑาะก์ #พระพุทธบัญญัติ #ห้ามบวช #ห้ามอุปสมบท #มีความไม่งอกงามในพระธรรมวินัยเป็นธรรมดา

Leave a Reply