วันที่  24 พ.ค. 67  วานนี้  ที่วัดสระเกศราช วรมหาวิหาร พระธรรมะโสภณ (Ven. Dhammasobhana Mahasthavir) ประธานคณะสงฆ์เนปาล เจ้าอาวาสวัดพุทธสมกริด วิหาร และ พระปัญญามูรติ (Ven. Panna Murti) เจ้าอาวาสวัดอานันทกุฏิ วิหาร กรรมการบริหารคณะสงฆ์เนปาล ได้เดินทางมาแสดงมุทิตาพระพรหมสิทธิ  เนื่องในโอกาสที่ พระพรหมสิทธิ ได้รับโปรดเกล้าสมณศักดิ์คืน

พระธรรมะโสภณและพระปัญญามูรติ เป็นพระภิกษุมหาเถระชาวเนปาลที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับวัดสระเกศ มาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นสหธรรมิกร่วมพระอุปัชฌาย์กับพระพรหมสิทธิ ซึ่งทั้งสองรูปอุปสมบท ณ อุโบสถวัดสระเกศ ในปีเดียวกัน โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพำนักอาศัยศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดสระเกศ นานกว่า 10 ปี  ในสมัยที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นเจ้าอาวาส จนสามารถพูด อ่าน เขียนภาษาไทยได้คล่องแคล่ว ก่อนจะกลับไปเป็นพระมหาเถระที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารงานปกครองคณะสงฆ์เนปาล

โดยเฉพาะเมื่อปี 2558 ประเทศเนปาลเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ซึ่งจัดตั้งตามมติมหาเถรสมาคม โดยพระบัญชาของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชขณะนั้น ร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ที่พระพรหมสิทธิเป็นประธาน ได้รวบรวมน้ำใจชาวไทยนำปัจจัยสิ่งของบริจาคไปช่วยเหลือพระภิกษุสามเณร และประชาชนชาวเนปาล รวมทั้งให้การสนับสนุนการบูรณะอาราม ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างที่เสียหาย ซึ่งรวมถึงวัดอานันทกุฏิของพระปัญญามูรติ ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เคยพำนักสมัยเรียนหนังสือเมื่อยังเป็นพระหนุ่มด้วย

การถวายสักการะในครั้งนี้ นับเป็นการแสดงความเคารพและยินดีในโอกาสที่พระพรหมสิทธิได้รับโปรดเกล้าสมณศักดิ์คืน ซึ่งเป็นสัญญาณของความเป็นหนึ่งเดียวและความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณะสงฆ์ไทยและเนปาล ทั้งนี้ พระพรหมสิทธิมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคณะสงฆ์ของทั้งสองประเทศมาอย่างยาวนาน