อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก : สดับพระธรรมเทศนา “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 20 สิงหาคม 2565   นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอวังเจ้า เป็นประธานพิธีทำบุญและฟังเทศน์บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระบารมีใน “อุภินนนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงโดยมี พระมหาภาสุ สมาจาโร ป.ธ.7 เจ้าคณะตำบลนาโบสถ์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก  ได้แสดงบทพระธรรมเทศนาแสดงอรรถาธิบายพระบรมพุทโธวาทของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ความว่าด้วยความประพฤติให้สำเร็จประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือประโยชน์เพื่อตนและเพื่อผู้อื่น ด้วยการอบรมเจริญคุณธรรมสำคัญ 3 ประการให้มีพร้อมขึ้นในตน ได้แก่ “ศีล” คือการรักษากายวาจาให้เป็นปรกติเรียบร้อย “ปัญญา” คือความฉลาดรอบรู้ หรือความรู้ชัดในเหตุและผล และ “สุตะ” คือการศึกษาเล่าเรียน เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก

ทั้งนี้ ธรรมะทั้ง 3 ประการ คือ ศีล ปัญญา และสุตะ นี้ ต่างอาศัยกันและกันเป็นไปจึงจะส่งผลสมบูรณ์ ให้ได้บำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นได้ทั้งสองสถาน ถ้าประชาชนสามารถเจริญธรรมะทั้ง 3 ประการให้พรั่งพร้อม ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนและแก่สังคมส่วนรวม ย่อมเป็นการฉลองพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้สมดังพระราชปณิธานแห่งธรรมราชินี สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงบริบูรณ์ด้วยพระราชธรรมจริยาอันปรากฏให้มหาชนทั่วหน้าได้ประจักษ์ว่า ทรงพรั่งพร้อมด้วย “ศีลธรรม” ทรงเป็นผู้มีศีล มีปัญญา และมีสุตะ ครบถ้วนทั้งสามสถาน

จึงทรงแน่วแน่ในพระราชปณิธาน ที่จะเอื้ออำนวยประโยชน์สุขให้บังเกิดแก่ประชานิกรตลอดมา ทรงตรากตรำบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่องเนิ่นนานมาจนพระชนมายุลุเขตชรา อย่างมิเห็นแก่ความลำบากพระวรกาย เป็นดั่ง “ศีล” หรือปรกติแห่งพระองค์ผู้ทรงเป็นมารดาประชาชาติไทย ทรงพระวิจารณปัญญาสอดส่องเห็นการณ์ไกลตามวิสัยแห่งอัจฉริยนารี พระราชทานประทีปนำทางปัญญาด้วยพระราชมธุรวาจาอันอ่อนหวานละมุนละม่อม ถึงพร้อมด้วยปรัชญาและสารัตถประโยชน์ ช่วยชุบชีวิตผู้คน สรรพสัตว์ และพืชพรรณ ให้ผ่านพ้นพิบัติภัยจนได้รับความผาสุกสวัสดี

ทั้งนี้  ก็ด้วยวิถีแห่ง “ปัญญา” ซึ่งล้วนเกิดขึ้นด้วยพระราชวิริยอุตสาหะอันแรงกล้าในทาง “สุตะ” คือความใฝ่พระราชหฤทัยศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม นำให้พระองค์ทรงสำเร็จประโยชน์ส่วนพระองค์และประโยชน์ส่วนมหาชนโดยครบถ้วนทุกประการ สถิตเสถียรในพระราชสถานะ “คุรุฐานียะ” คือครูผู้ประเสริฐ และทรงเป็น “ปูชนียะ” คือบุคคลที่พึงเคารพบูชาสำหรับปวงประชาชาติไทยได้อย่างแท้จริง

 หลังการสดับพระธรรมเทศนาจบ นายอำเภอวังเจ้า ได้กล่าวเชิญชวนพุทธศาสนิกชนได้ร่วมรับฟังพระธรรมเทศนา “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 และบำเพ็ญประโยชน์เป็นปฏิบัติบูชาเพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดทั้งปี

โดยมี นายกฤษดา ตาวงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 พร้อมด้วยนางวทันยา สุขดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ตำบลนาโบสถ์ พุทธศาสนิกชนบ้านนาโบสถ์และบ้านนาแพะ ร่วมทำบุญและรับฟังพระธรรมเทศนาในครั้งนี้

Leave a Reply