เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กรณีภาพข่าวโดยเพจดังได้โพสต์แฉแชทของพระครูบาดังของวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดที่อำเภอตามที่เป็นข่าว แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเข้าพรรษาแล้ว ซึ่งตนเป็นคนในพื้นที่ทราบข้อมูลดี
“อีกทั้งกรณีดังกล่าวคณะสงฆ์ได้ส่งพระวินยาธิการผู้ชี้มูลความผิดเข้าตรวจสอบแล้วและต้องอธิกรณ์ ชั้นสังฆาทิเสส ถูกให้ลงโทษความผิดโดยให้ไปปริวาสกรรมตามพระธรรมวินัยไปแล้ว ซึ่งหลังจากพ้นการปริวาสกรรมแล้วพระสงฆ์รูปดังกล่าวได้ออกเดินทางธุดงค์ เพื่อแก้กรรมดังกล่าว เรื่องนี้การแฉข่าวและการพูดโดยผู้ที่ได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน และให้พระสงฆ์ผู้มีชื่อเสียงมาพูดต่อ ซึ่งท่านได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนถือเป็นกรรมหนัก ซึ่งเป็นการทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย พระสงฆ์ในทุกวันนี้บวชยากอยู่แล้วจะยิ่งทำให้พระสงฆ์น้อยไปเรื่อยๆ อยากจะให้ผู้ที่ไม่รู้ลองมาบวชแค่เป็นสามเณรถือศีลแค่ 10 ข้อ เอาสัก 1 อาทิตย์ จะรู้ว่าการบวชเป็นพระนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด
ด้านนายณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการฯพระพุทธศาสนาฯ สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า กรณีดังกล่าวที่มีการโพสต์ทำให้พระสงฆ์เสื่อมเสียถือเป็นคดีอาญา ผิดทั้งคดี หมิ่นประมาท + พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯผิดตาม มาตรา14 (1) มาตรา 14 (2) โทษตามมาตรา 14จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้กฎหมายในประมวลกฎหมายอาญา ด้านการหมิ่นศาสนาในมาตรา 206-208 ยังจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย ซึ่งกำลังเข้าสู่สภา ซึ่งหากได้รับการตรากฎหมายจะมีโทษสำหรับผู้ทำให้พระสงฆ์และศาสนาเสื่อมเสียอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะโพสต์ก่อนที่จะแชร์ด้านทำให้พระสงฆ์เสื่อมเสียควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน
Leave a Reply