ดีเดย์ 15 องค์กร ผนึกพลังขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ วัดพุทธแสงธรรม อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ได้มีการประชุมชี้แจงแผนยุทธศาสตร์โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) พิธีมอบโล่รางวัล พัดเกียรติยศ และเกียรติบัตร วัดต้นแบบ ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕ และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดำเนินโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (MOU) โดยมีคณะสงฆ์ องค์กรภาครัฐ และเอกชนจำนวน ๑๕ องค์กร อาทิ มหาเถรสมาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และบริษัทเนเจอร์กิฟ จำกัด ได้ทำการลงนามบันทึกข้อตกลงท่ามกลางคณะสงฆ์และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม, ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ประธานในพิธีได้กล่าวว่า “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เป็นหนึ่งในงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา โดยมุ่งพัฒนาวัดและชุมชนให้เรียบร้อยรื่นรมย์ เป็นศูนย์การเรียนรู้และการพัฒนาจิตใจของประชาชน มีแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๑ หัวใจของโครงการ คือ กลไกการสร้างสายสัมพันธ์ความร่วมแรงร่วมใจกันของวัด ชุมชน และภาคเครือข่ายในท้องถิ่นด้วยอุดมการณ์ร่วมกัน คือ ศรัทธาปสาทะในบวรพระพุทธศาสนา และเจตจำนงให้วัดเป็นสถานที่สัปปายะ เป็นสถานที่พักแก่ผู้เข้ามาพึ่งพาบำบัดทุกข์และเสริมสร้างความสุขทั้งแก่กายและใจ อันจะนำไปสู่ความวัฒนาสถาวรของชาติและสถาบันพระพุทธศาสนา โดยหวังว่า โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข จะนำไปสู่การพัฒนาวัดและชุมชนให้มีการจัดการสิ่งแวดล้อมและการจัดการมรดกวัฒนธรรมของวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ด้านพระธรรมรัตนาภรณ์ ประธานอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ส่วนกลาง กล่าวว่า โครงการนี้มีป้าหมายสำคัญ คือ การส่งเสริมให้มีเกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมและองค์ความรู้ ๕ส ไปสู่การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ การจัดการสิ่งแวดล้อม และรักษาความสะอาดภายในวัดให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ และการพัฒนาการเรียนรู้ทางสังคมวิถีพุทธ รวมทั้งการมีจิตอาสาเพื่อการพัฒนาสังคม โดยมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายสำคัญคือ “วัดสวยด้วยความสุข” และ “การสร้างวัดในใจคน” โดยผลการดำเนินการในระยะที่ ๑ ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ มีผลการดำเนินการ ดังนี้ ด้านจำนวนวัดและประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า มีวัดที่เข้าร่วมโครงการจำนวน ๒๒,๕๗๔ วัด จาก ๔๒,๔๖๙ วัดทั่วประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ ๕๓.๑๕ แบ่งเป็นวัดที่เข้าสู่มาตรฐานจำนวน ๑๙,๖๓๒ วัด วัดสร้างมาตรฐานระดับดี ๒,๑๑๗ วัด ระดับสร้างมาตรฐานดีเด่น ๖๗๙ วัด และระดับดีเยี่ยมจำนวน ๑๔๖ วัด โดยมีวัดที่ได้รับทุนอุดหนุนกิจกรรมจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจำนวน ๒,๑๗๘ วัด ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดร้อยละ ๕๐ ของวัดทั่วประเทศภายในระยะเวลา ๕ ปี ด้านความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ใช้กลยุทธ์การจับคู่วัดและองค์กรในการพัฒนาวัดและชุมชน โดยมีองค์กรที่ร่วมสนับสนุนโครงการจำนวนมาก จนเกิดขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขให้เกิดสัมฤทธิผล คือ วัดสวยด้วยความสุข โดยมีตัวแทนประชาชน องค์กรภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมโครงการจำนวน ๒,๗๐๘,๘๘๐ คน ด้านกิจกรรมและนวัตกรรมของโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข โครงการได้พัฒนากิจกรรมวิถีพุทธที่สำคัญ คือ ๑) กิจกรรม ๕ส ภายในวัด ๒) กิจกรรมวัดสวยด้วยความสุข ๓) กิจกรรมการจับคู่สู่การพัฒนา ๔) กิจกรรม ซีเอสอาร์ (CSR) วิถีพุทธ ๕) กิจกรรมส่งเสริมจิตใจอาสาและปัญญาวิถีพุทธ ๖) กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้วิถีพุทธ จนทำให้เกิดนำกิจกรรมดังกล่าวไปขยายผลสู่โรงเรียนและชุมชนทั่วประเทศ โดยมีชุดความรู้และสื่อสร้างสรรค์จำนวนมาก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “กระทรวงมหาดไทยได้นำหลัก “บวร” มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดพลังในการพัฒนาที่เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่าง บ้าน วัด รัฐ และส่งเสริมให้ผู้นำทางศาสนาทุกศาสนาในพื้นที่นั้นๆ ร่วมเป็นแกนนำในการพัฒนา เพื่อประโยชน์ในการบำบัดทุกข์บำรุงของประชาชน เมื่อคณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคม ได้พัฒนาโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยไม่ว่าจะเป็นโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ และโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข กระทรวงมหาดไทยจึงให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างเต็มที่ สำหรับโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข นับว่าเป็นโครงการสร้างที่สร้างประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในวัดและชุมชนตามหลัก ๕ส และหลักสัปปายะเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้งดงาม การเปิดพื้นที่ให้วัด ประชาชน และรัฐ ได้เรียนรู้และทำงานร่วมกัน สำหรับโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เป็นหนึ่งในโครงการของแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา โดยฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเพื่อพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา และเป็นรมณียสถานอันเป็นความสงบทางจิตใจของพุทธศาสนิกชน โครงการนี้มีป้าหมายสำคัญ คือ การส่งเสริมให้มีเกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมและองค์ความรู้ ๕ส ไปสู่การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ การจัดการสิ่งแวดล้อม และรักษาความสะอาดภายในวัดให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ และการพัฒนาการเรียนรู้ทางสังคมวิถีพุทธ รวมทั้งการมีจิตอาสาเพื่อการพัฒนาสังคม โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ และขยายผลสู่ในระยะที่ ๒ พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๗๐ มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชน กรมอนามัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขให้สัมฤทธิผล รวมทั้งมีตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมในการนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อพัฒนา “คุณภาพสิ่งแวดล้อม” ของวัดและชุมชน โดยมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายสำคัญคือ “วัดสวยด้วยความสุข” และ “การสร้างวัดในใจคน” จำนวนผู้ชม : 543 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author หลวงปู่บางพระเถระรามัญ “เทพเจ้าแห่งมอญกระทุ่มมืด” อุทัย มณี ม.ค. 10, 2019 วันนี้ขอเสนอ ชีวประวัติของพระเถราจารย์รามัญ ผู้เสมือนดั่งเทพเจ้าของชาวมอญกระทุ่มมืด… เปิดคำสั่ง สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการวัดประชารัฐ สร้างสุข ชุดใหม่ ครบทุกภูมิภาค อุทัย มณี มี.ค. 15, 2020 เพื่อให้การดำเนินการโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข อันเป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ… องค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์จัดประชุมใหญ่ เสริมวิสัยทัศน์การเผยแผ่ต่างแดน อุทัย มณี ก.ค. 08, 2023 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 น. พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม… ปฎิรูปพุทธศาสนามา 4 ปี มีอะไรสำเร็จบ้าง ?? อุทัย มณี ม.ค. 17, 2021 เช้าวันนี้ (17ม.ค.64) เจ้าคุณพลหรือ พระเทพเวที รก.เจ้าคณะภาค… เจ้าคณะชัยนาทนำปลูกฟ้าทะลายโจร เตรียมขยายพื้นที่ 20 วัด อุทัย มณี ก.ค. 26, 2021 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่บริเวณวัดหนองพังนาคตำบลเสือโฮกอำเภอเมืองจังหวัดชัยนาทคณะสงฆ์จังหวัดชัยนาทร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกระชายขาวรวมไปถึงพืชสมุนไพรอื่นๆที่มีสรรพคุณเป็นยาเพื่อนำมาผลิตเป็นยาต้านโควิด-19และแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นยาทางเลือกในการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านมีรายได้จุนเจือครอบครัว… “สมเด็จพระสังฆราช” แต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช 3 รูป อุทัย มณี ม.ค. 23, 2023 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2566 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช… อธิการบดีมหาจุฬาฯแนะนำอริยสัจโมเดล ประยุกต์แก้ความขัดแย้งสังคมไทย อุทัย มณี พ.ย. 25, 2020 พระราชปริยัติกวี อธิการบดีมหาจุฬาฯ แนะนักวิชาการสันติวิธีนำอริยสัจโมเดล… ปลัดมหาดไทยโค้ชชิ่งถอดบทเรียนการบริหารงานเชิงพื้นที่ที่ประสบผลสัมฤทธิ์ (Best Practice) ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ อุทัย มณี ก.ย. 18, 2023 ปลัดมหาดไทยโค้ชชิ่งถอดบทเรียนการบริหารงานเชิงพื้นที่ที่ประสบผลสัมฤทธิ์… นานาชาติแห่เรียน “หลักสูตรครูสติ” ล้นหลาม อธิการบดีย้ำสติเป็นยารักษาชีวิต อุทัย มณี มี.ค. 17, 2019 วานนี้ (16 มีนาคม 2562) วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร วังน้อย: … Related Articles From the same category ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำคณะผู้บริหารร่วมพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในวันอานันทมหิดล วันนี้ (9 มิ.ย. 66) เวลา 08.08 น. ที่บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด… ศาสนิกสัมพันธ์:สร้างสรรค์พหุวัฒนธรรมในเดือนรอมฎอน เมื่อวันเสาร์ 8 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ผศ.ดร.อับดุลเลาะ หนุ่มสุข สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา… “กรมสมเด็จพระเทพฯ” พระราชวโรกาสให้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ประธานจัดสร้างปูชนียมงคลวัตถุ วัดตาปะขาวหาย พร้อมคณะกรรมการ เข้าเฝ้า วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2567 เวลา 09.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า… มส.เห็นชอบตั้งวัดเพิ่ม 185 วัด วันนี้เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล… “สมเด็จพระสังฆราช” พร้อมพระราชาคณะ เจริญพระพุทธมนต์ถวาย “ในหลวง” วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.19 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช…
Leave a Reply