เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ณ วัดลานแซะ บ้านศาลาต้นรัก หมู่ที่ 1 ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง คณะสงฆ์จากส่วนกลางและคณะสงฆ์ในภาคใต้ นำโดยพระเดชพระคุณพระราชวรเวที ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อน โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ประจำหนใต้ พระเทพปัญญาโมลี รองประธานคณะกรรมการบริหารกลาง ขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” พร้อมคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงาน โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” แผนยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 256 จังหวัดพัทลุง เพื่อพิจารณา “บ้านศาลาต้นรัก หมู่ที่ 1 ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง” เป็นหมู่บ้านต้นแบบตามโครงการฯดังกล่าว โดยมีนางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวต้อนรับ
โครงการฯดังกล่าวคณะสงฆ์จังหวัดพัทลุง และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพัทลุง ได้ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมดำเนินการสนับสนุนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อสร้างสังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ตามแนวทางของพระพุทธศาสนาโดยให้ประชาชนดำรงตนยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักศีล 5 ในทุกพื้นที่ของจังหวัดต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีนักเรียน สถานศึกษา หน่วยงานราชการ และประชาชน ร่วมกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันธรรมสวนะ กิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้นำหลักธรรมเพื่อการพัฒนาองค์กรและการพัฒนาตน จึงได้นำเสนอ “บ้านศาลาต้นรัก หมู่ที่ 1 ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง” เข้าร่วมโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ขณะเดียวกันคณะสงฆ์ผู้พิจารณาหมู่บ้านต้นแบบ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้เยี่ยมชมกิจกรรมที่ นักเรียน ประชาชน หน่วยงาน และวัด ในพื้นที่ร่วมกันจัดทำ อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ ที่สะสมของเก่าโบราณ วีถีชีวิตของคนชาวบ้านศาลาต้นรัก สินค้าทางด้านการเกษตร และการรำมโนราห์ ซึ่งมีพระครูศาสนกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดลานแซะ รองเจ้าคณะอำเภอควนขนุน สนับสนุนสถานที่และต้อนรับคณะตรวจเยี่ยมของคณะสงฆ์ และผู้ร่วมกิจกรรม และต่อจากนั้นได้เดินทางไปยัง ที่ศาลาหมู่บ้าน บ้านศาลาต้นรัก เพื่อตรวจเยี่ยม และชมการจัดแสดงผลงาน ของหมู่บ้าน ซึ่งหมู่บ้านศาลาต้นรัก เป้นหมู่บ้านสุจริตต้นแบบของอำเภอควนขนุน ในทุกครั้งที่ผ่านมา หมู่บ้านนี้ มีประชากรออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดของอำเภอ และการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในทุกๆ ครั้ง ไม่มีการซื้อสิทธิ์-ขายเสียงกัน และทุกคนในหมู่บ้าน ล้วนมีแต่ความรักสามัคคีปรองดองซึ่งกันและกัน
ข้อมูลข่าวและที่มา https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230830160444098
Leave a Reply