สัมภาษณ์พิเศษ :“เจ้าคุณประสาร” หลังผลงานวิจัย “มจร” ขึ้นสู่ฐานนานาชาติ “SCOPUS” หลังเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา วารสาร Journal of International Buddhist Studies : JIBS ของสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ “มจร” ได้รับการขึ้นสู่ฐานวารสารข้อมูล SCOPUS นับว่าเป็นวารสารฉบับแรกของมหาจุฬา ฯ และเป็นวารสารทางพระพุทธศาสนาฉบับแรกของไทยที่ได้รับการยอมรับในฐานวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติของ SCOPUS ซึ่งการยอมรับผลงานทางวิชาการระดับนานาชาติในครั้งนี้ ทำให้ “มจร” ในฐานะเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์เป็นที่ยอมรับขึ้นอีกระดับหนึ่งในเวทีสากล ซึ่งการที่ “SCOPUS” ยอมรับผลงานวิจัยของ มจร ในคราวนี้ก็เปรียบเสมือนโรงงานอุตสาหกรรมได้รับการรับรองจาก ISO หรือ HACCP ฉะนั้น ส่งออกผลผลิตได้ทั่วโลก.. เพื่อให้เกิดความกระจ่างเรื่องนี้ มีความเป็นมาอย่างไร และ ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รู้สึกอย่างไรบ้าง ทีมข่าว “Thebuddh” ได้ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์พิเศษเรื่องนี้กับ พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ในฐานะที่กำกับดูแลสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ โดยตรง “เจ้าคุณประสาร” ได้เล่าถึง พัฒนาการของพันธกิจด้านการวิจัยของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่มุ่งสู่ความเป็นนานาชาติ ว่า จุดเริ่มต้นเรื่องนี้บรรจุไว้ตั้งแต่ในแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยระยะที่ 10 แล้ว โดยระบุไว้ในยุทธศาสตร์ที่ 3 ที่มุ่งพัฒนาสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ให้เป็นศูนย์ประสานและทำวิจัยด้านพระพุทธศาสนานานาชาติ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางการวิจัยด้านพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติ ต่อเนื่องมาถึงแผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 11 (พ.ศ. 2555 – 2559 ) ซึ่ง ปรากฎในยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพการวิจัยทางพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติ จะเห็นว่ามหาวิทยาลัยมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง พอมาถึงแผนพัฒนามหาวิทยาลัยระยะที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564 ) ที่ระบุไว้ในยุทธศาสตร์ที่ 2 ว่า พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมให้มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์คามรู้และนวัตกรรมด้านพระพุทธศาสนาที่บูรณาการกับศาสตร์อื่น เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการในการแก้ไขปัญหาของชุมชน สังคม ประเทศชาติ จนมาถึงปีพ.ศ. 2565 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยโดยมติสภามหาวิทยาลัยอนุมัติให้ใช้แผนปฏิบัติการ พ.ศ. 2565 (แผนเฉพาะกิจ) ระหว่างรอแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ประกาศใช้ ในยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาองค์ความรู้จากงานวิจัย ยึดหลัก CAT คือ พร้อมรับ (Cope) ปรับตัว (Adapt) และเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโต (Transform) พร้อมรับ (Cope) คือ การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยได้ทำมาทั้งหมด และวางระบบและกลไกการส่งเสริม การเผยแพร่งานวิจัยในระดับนานาชาติที่ได้รับการยอมรับ ปรับตัว (Adapt) คือ พัฒนารูปแบบงานวิจัยไปสู่งานวิจัยแบบ R & D (Research and Development) นำไปใช้ในการแก้ไขปัญหา นำไปใช้ในการประกอบสัมมาอาชีพ นำไปใช้ในการใช้ชีวิตประจำวัน เปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโต (Transform) เป็นการเอาผลจากการสังเคราะห์งานวิจัยทั้งหมดของมหาจุฬา และองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย R & D มาต่อยอดเพื่อนำไปสู่การพัฒนา ซึ่งเป็นการสร้างพุทธนวัตกรรมตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยนั่นเอง “ปัจจุบันนี้ มหาจุฬา อยู่ในช่วงแผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯระยะที่ 13 ซึ่งเราได้ใช้แผนนี้มา 1 ปีแล้ว ในแผนฯ 13 ฉบับนี้ เป้าหมายเมื่อสิ้นสุดแผนจะอยู่ที่ “การเป็นมหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่และสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม” โดยในแผนพัฒนาระยะที่ 13 มียุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการวิจัยที่ระบุว่า “พัฒนางานวิจัยและสร้างพุทธนวัตกรรมให้มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยมีเป้าประสงค์ในยุทธศาสตร์ที่ 2 จำนวน 4 เป้าประสงค์ โดยเฉพาะเป้าประสงค์ที่ 2.3 ผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือพุทธนวัตกรรมได้รับการตีพิมพ์หรือเผยแพร่ในระดับชาติหรือ นานาชาติ โดยมีกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของเป้าประสงค์นี้ว่า “ส่งเสริม สนับสนุน การตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือพุทธนวัตกรรมในระดับชาติหรือนานาชาติ และ เป้าประสงค์ที่ 2.4 ผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์หรือพุทธนวัตกรรมได้รับการอ้างอิง หรือนำไปใช้ประโยชน์ในระดับชาติหรือนานาชาติ ซึ่งกลยุทธ์ที่ใช้ในการขับเคลื่อนคือ “สร้างและพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการเผยแพร่และอ้างอิง รวมถึงการสืบค้นข้อมูล งานวิจัย งานสร้างสรรค์และพุทธนวัตกรรม” พร้อมกล่าวต่ออีกว่า แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ เป็นแผนที่ได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย ซึ่งหมายถึง เป็นแผนที่ในการทำงานของมหาวิทยาลัยในภาพรวมที่ทุกคนจะต้องขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายร่วมกันพระครูสุธีกิตติบัณฑิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ รูปปัจจุบัน ท่านเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 ได้รับมอบนโยบายจากองค์อธิการบดี คือ พระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต ที่ได้มอบนโยบายในการทำงานในประเด็นหลักๆ ดังนี้ 1.พัฒนาศักยภาพอาจารย์และนักวิจัยสู่ความเป็นนักวิจัยมืออาชีพ 2.การบริหารงานแบบธรรมาภิบาล โปร่งใส มีประสิทธิภาพ 3.การหาเวทีหรือช่องทางการเผยแพร่ผลงานวิจัยที่ได้ดำเนินการมา ออกสู่สาธารณชน ไม่เป็นวิจัยขึ้นหิ้ง แต่ต้องเป็นวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 4.การคำนึงถึงความเป็นมหาวิทยาลัยกลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา และการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยอันจะมุ่งไปสู่การสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคมนั่นเอง จากกรอบแนวทางการทำงานที่ได้จากแผนพัฒนามหาวิทยาลัย และนโยบายของพระเดชพระคุณ พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ โดย พระครูสุธีกิตติบัณฑิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ และ พระมหาเกรียงศักดิ์ อินฺทปญฺโญ, ผู้อำนวยการส่วนงานบริหาร ได้ดำเนินการตามกลยุทธ์ “สร้างและพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการเผยแพร่และอ้างอิง รวมถึงการสืบค้นข้อมูล งานวิจัย งานสร้างสรรค์และพุทธนวัตกรรม” โดยเข้าร่วมโครงการ “การพัฒนาคุณภาพวารสารไทยเพื่อบรรจุในฐานข้อมูล Scopus (2023-2025)” ที่ได้รับการตอบรับ (Accepted) เข้าสู่ฐานข้อมูล Scopus โดยได้ทำการ submit ข้อมูล เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 และได้รับการ accept ในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 โดยใช้ชื่อวารสารว่า “ Journal of International Buddhist Studies E-ISSN: 2586-9620” หัวหน้ากองบรรณาธิการ: พระครูสุธีกิตติบัณฑิต โดยมีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นเจ้าของวารสาร นับเป็นวารสารแรกด้านพุทธศาสนาของไทยในฐานข้อมูล SCOPUS พระราชวัชรสารบัณฑิต ในฐานะรองอธิการบดีที่กำกับดูแลสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ ไดักล่าวปิดท้ายเพิ่มเติมว่า “การทำให้มหาวิทยาลัยมีวารสารด้านพุทธศาสนาของไทยเข้าสู่ฐานข้อมูล SCOPUS ได้ในครั้งนี้ขออนุโมทนาขอบคุณ พระสุธีรัตนบัณฑิต อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย พระครูวินัยธรสุริยา สุริโย ผู้ช่วยอธิการบดีวิทยาเขตนครศรีธรรมราช ฝ่ายวิชาการ ที่เป็นกำลังสำคัญในการติดต่อประสานงานกับศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI )และถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญของพระครูสุธีกิตติบัณฑิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ , พระมหาเกรียงศักดิ์ อินฺทปญฺโญ ผู้อำนวยการส่วนงานบริหาร ที่ได้ทุ่มเทกำลังแรงกาย แรงใจพร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ รวมทั้งองคาพยพของ มจร ทุกท่าน ทุกคน ในการสนองนโยบายท่านอธิการบดีสัมฤทธิ์ผลในครั้งนี้ ซึ่งหวังว่าการยอมรับผลงานวิจัยของเราจาก SCOPUS คร้้งนี้จะทำให้ มจร ของพวกเราจะเป็นที่รู้จักและยอมรับจากนานาชาติ มากยิ่งขึ้น เพราะในทางวิชาการหาก SCOPUS ยอมรับ เครดิตเราดีขึ้นแน่ เหมือนโรงงานอุตสาหกรรม หากมีมาตรฐาน ISO รับรอง แปลว่าโรงงานนั้น ๆ ได้มาตรฐาน..” ตอนหน้าทีมข่าว ““Thebuddh” จะลงไปสัมภาษณ์พิเศษ พระครูสุธีกิตติบัณฑิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ ว่า กระบวนการขั้นตอนกว่าจะได้มาตรงนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง และอนาคตจะรักษามาตรฐานตรงนี้ไว้ได้อย่างไร พบกันตอนหน้าครับ.. จำนวนผู้ชม : 973 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author “ผอ.สันติศึกษา มจร”เห็นคุณโควิด กระตุ้นคนทำเกษตรผสมผสานมากขึ้น อุทัย มณี ม.ค. 06, 2021 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา… พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,139 รูป จุดประทีปหมื่นดวง ถวายพระพรชัยมงคลแด่เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ อุทัย มณี ม.ค. 18, 2023 วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566 พระปริยัติวรคุณ เจ้าคณะอำเภอสองพี่น้อง… “องคมนตรี” เป็นประธานในพิธีรับผ้าไตรพระราชทาน เพื่อประกอบพิธีทอดผ้าป่าสมทบทุน โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย อุทัย มณี ต.ค. 05, 2022 เมื่อวันพุธที่ 5 ตุลาคม 2565 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องประชุมชั้น 1 ทำเนียบองคมนตรี… อำเภอวังเจ้า “ไม่มีแผ่ว” เดินหน้า “หมู่บ้านรักษาศีล 5″ ขยายผลสู่ ” หมู่บ้านศีลธรรม” ต่อเนื่อง อุทัย มณี มี.ค. 01, 2024 วันที่ 1 มี.ค. 67 นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก… เปิดโฉมหน้า !! ว่าที่ “รองผอ.พศ.” อุทัย มณี ก.ค. 14, 2024 วันที่ 14 กรกฏาคม 2567 เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ผ่านมามีหนังสือประกาศคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติฉบับหนึ่ง… สะเทือนวงการบันเทิงเมียนมา! ดารานักร้องดังหนีชีวิตหรูบวชชี อุทัย มณี พ.ค. 22, 2019 วันที่ 22 พ.ค.2562 สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการบันเทิงต่างแดนอีกครั้ง… “เจ้าคุณเสียดายแดด” มอบวัตถุมงคล-ติดตั้งโซล่าเซลล์” ให้ทหารไทยแนวชายแดน อุทัย มณี มิ.ย. 03, 2025 วันที่ 3 มิถุนายน 2568 พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม… บทบาทของพระสงฆ์ในอาเซียนกับการบ้าน–การเมืองในโลกสมัยใหม่ อุทัย มณี ก.ย. 05, 2021 แม้จะจริงว่า ในยุครัฐนาฏกรรมในอุษาคเนย์ที่อำนาจของรัฐต่างๆ… “ปลัดมท.”ควง”นายกส.แม่บ้านมท.” สัญจรเหนือ”มจร”ลำพูน ชวนแม่บ้านจังหวัดกระตุ้นเแก้จนลดโลกร้อน อุทัย มณี มี.ค. 22, 2022 ปลัดกระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษในการประชุมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด… Related Articles From the same category มติมส.แต่งตั้งพระสังฆาธิการหลายตำแหน่ง พร้อมตั้งรองประธานฝ่ายต่างประเทศ 6 ตำแหน่ง วันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. ณ ตำหนักเพ็ชร… มท.1 เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ “พระบรมธาตุศรีแสงธรรมมหาวชิรโมลี” วัดพระเสียดายแดด วันที่ 29 มีนาคม 2566 (ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5) เวลา 13:09 น. ที่วัดป่าศรีแสงธรรม… “สมเด็จพระพุฒาจารย์” ประธานในพิธีเททองหล่อรูปเหมือน “สมเด็จช่วง” วันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร… คณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย เฝ้าสักการะ “สมเด็จพระสังฆราช วัน ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๖ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ… เสียงจากสงฆ์ธรรมยุต : ผู้ทรงศีลทรงธรรมไม่ควรถูกกระทำเยี่ยงคนธรรมดา วันที่ 18 เมษายน 65 เฟชบุ๊คชื่อ “Sophonthamudom” หรือ พระครูโสภณธรรมอุดม…
Leave a Reply