ปลัดมหาดไทยแจ้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ชวนภาคีเครือข่าย รักษา แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ให้สะอาด สวยงาม สมกับเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาติ

วันนี้ (29 ต.ค. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นับเนื่องไปเมื่อปีพุทธศักราช 2562 อันเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการสำรวจและบำรุงรักษาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพเลื่อมใส แหล่งน้ำที่เคยใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ให้คงอยู่ในสภาพที่ใสสะอาด และดำเนินการพัฒนาภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม มีความพร้อมที่จะนำน้ำไปประกอบพิธีสำคัญให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ ซึ่งในการจัดทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ได้ดำเนินการบำรุงรักษาแหล่งน้ำครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด ด้านพิธีพลีกรรมตักน้ำ ด้านพิธีทำน้ำอภิเษก และด้านการเชิญคนโทน้ำอภิเษก โดยมีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมจำนวน 107 แหล่งน้ำ

เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ดำเนินการพัฒนา ฟื้นฟู บูรณะแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อยกระดับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์อันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของอนุชนรุ่นหลัง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า เพื่อให้การดำเนินการทำนุบำรุงแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละจังหวัดเป็นไปตามแนวทางการบำรุงรักษาและฟื้นฟูแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดประสานกับอำเภอในพื้นที่เป้าหมายให้ร่วมกับผู้นำศาสนา ภาคเอกชน จิตอาสาพระราชทาน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) และประชาชนในพื้นที่ดูแลแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้อยู่ในสภาพที่ใสสะอาด มีการปรับภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม เป็นระเบียบอยู่เสมอ โดยน้อมนำแนวทางตามหลักการทรงงาน “ร่วมคิด ร่วมพูดคุย ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์” ด้วยการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ เช่น อุทยาน โบราณสถาน วัด ฯลฯ พร้อมทั้งจัดให้มีกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ร่วมพัฒนาบริเวณแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และปรับภูมิทัศน์โดยรอบในทุกเดือน และจัดทำป้ายอธิบายให้ความรู้แก่ผู้มาเยี่ยมชมถึงประวัติความเป็นมาของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รวมถึงจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยของอนุชนรุ่นหลัง รวมถึงอาจจัดพิธีเสริมความเป็นสิริมงคลในพื้นที่

“กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนตลอดจนภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี ในพื้นที่จังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ อันประกอบด้วย ภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารสารมวลชน ได้หลอมรวมพลังแห่งความรู้รักสามัคคีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ร่วมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ทั้งการนำเสนอแนวทางและรูปแบบการพัฒนา ทำนุบำรุงแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดให้สะอาด สวยงาม เกิดการเสริมสร้างพลังการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และเป็นสถานที่แห่งความภาคภูมิใจของพี่น้องประชาชน เด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในการแสดงออกซึ่งการดูแลรักษาอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่แห่งการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สถานที่แห่งการน้อมรำลึกในประวัติศาสตร์ความเป็นชาติไทย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานที่เหล่านี้ล้วนแต่หนุนเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในมิติวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของแต่ละพื้นที่ซึ่งจะยังผลให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถด้านสินค้าและบริการและศักยภาพการแข่งขันของประเทศ สมกับการเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาติ ที่จะทำให้ประชาชนได้ร่วมกันดูแลรักษาให้คงอยู่คู่กับประเทศไทย เมื่อสังคมดี เศรษฐกิจดี คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนก็จะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ได้ปฏิบัติตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้แจ้งวิธีการดำเนินงาน พร้อมทั้งกำกับและติดตามการดำเนินการพัฒนา ฟื้นฟู บูรณะแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วรายงานให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทราบทุกวันที่ 30 ของเดือน จนถึงสิ้นปี 2567

Leave a Reply