พระสงฆ์ไทยอยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์องค์ศาสนูปถัมภ์ ดังนั้นสมณศักดิ์หรือยศของพระสงฆ์จึงเป็นพระราชอำนาจที่จะพระราชทานแก่พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่อยู่ในสายพระเนตรซึ่งเป็นพระสงฆ์ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ประกอบศาสนกิจเพื่อประโยชน์เกื้อกูลต่อพระศาสนาและประชาชน สมณศักดิ์หรือยศของพระสงฆ์นี้ จึงเกี่ยวเนื่องกับตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ กล่าวคือพระสงฆ์ซึ่งมียศถาบรรดาศักดิ์แล้วย่อมได้รับมอบหมายภาระหน้าที่ในการปกครองดูแลคณะสงฆ์อีกทางหนึ่งด้วย เช่น มีสมณศักดิ์ในราชทินนามว่า พระสุขุมวาทเวที มีตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์เป็น เจ้าอาวาสวัดบูรพาภิราม พระอารามหลวง และเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นต้น
การเคารพ นอบน้อมต่อพระสงฆ์เป็นวัฒนธรรมอันดีงามในสังคมชาวพุทธ การปฏิบัติให้งดงามตามสมณศักดิ์หรือยศของพระด้วยนั้น ย่อมจะเสริมปฏิสัมพันธ์กับพระสงฆ์ตามที่ควรจะเป็น มีปฏิสันถารการต้อนรับสมควรแก่ยศถาบรรดาศักดิ์ การวางตัวและการสนทนาที่เหมาะสม ถือเป็นการให้เกียรติยกย่องเทิดทูนสมณศักดิ์ ที่ได้รับพระราชทานด้วยเช่นกัน สมณศักดิ์หรือยศพระสงฆ์ไทย ประมวลโดยจัดระดับ มี 9 ชั้น เรียงตามลำดับตั้งแต่สูงสุด ดังนี้
ชั้น 1 สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระประมุขแห่งคณะสงฆ์ไทย ถ้าสืบสายจากพระบรมวงศานุวงศ์ หรือได้รับการสถาปนาร่วมในพระบรมวงศานุวงศ์ เรียกว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
ชั้น 2 สมเด็จพระราชาคณะ โดยยศสูงเช่นนี้มักได้รับมอบหมายให้ปกครองคณะสงฆ์ในเขตพื้นที่กว้างใหญ่ มีหน้าที่รับผิดชอบสูงตามสมณศักดิ์เรียกว่า ตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หน ซึ่งมีทั้งหมด 4 หน ได้แก่ หนกลาง หนเหนือ หนตะวันออก และหนใต้ เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์ ตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก คำว่า หน เป็นภาษาไทยโบราณ หมายถึง ทิศทาง เช่น ต้นหน หมายถึงผู้ดูทิศทางในการเดินเรือ สำนวนไทยใช้คำซ้อน มีคำว่า หนทาง ก็คือ ทิศทาง นั่นเอง หรือบางครั้งก็ได้ยินคำถามว่า อยู่หนไหน หมายถึง อยู่ทางไหน หรืออยู่ทิศใด ดังนั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์ จึงปกครองพระสงฆ์ในทิศตะวันออกทั้งหมดรวมภาคอีสานด้วย ปัจจุบันมีสมเด็จพระราชาคณะ จำนวน 9 รูป
ชั้น 3 รองสมเด็จพระราชาคณะ สมณศักดิ์หรือยศชั้นนี้ใช้คำนำหน้าว่า “พระพรหม” ต่อด้วยราชทินนามหรือชื่อที่พระราชทาน ใช้กำกับสมณศักดิ์พระสงฆ์ เพื่อให้เป็นสิริมงคลและเป็นเกียรติยศปรากฏแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป เช่น พระพรหมวชิรปัญญาจารย์(เจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร) “พระพรหม” เป็น สมณศักดิ์ “วชิรปัญญาจารย์” เป็น ราชทินนาม พระพรหมวชิรมุนี(เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร) “พระพรหม” เป็น สมณศักดิ์ “วชิรมุนี” เป็นราชทินนาม เป็นต้น ปัจจุบันมีรองสมเด็จพระราชาคณะ จำนวน 25 รูป
ชั้น 4 พระราชาคณะชั้นธรรม ใช้คำนำหน้าว่า “พระธรรม” ต่อด้วยราชทินนามที่พระราชทาน เช่น พระธรรม วชิราภรณ์(เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร) พระธรรมวชิรมงคล(เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร) เป็นต้น ปัจจุบันมีพระราชาคณะชั้นธรรม จำนวน 41 รูป
ชั้น 5 พระราชาคณะชั้นเทพ ใช้คำนำหน้าว่า “พระเทพ” ต่อด้วยราชทินนามที่พระราชทาน เช่น พระเทพวิสุทธิเมธี(เจ้าอาวาสวัดเทพธิดารามวรวิหาร) พระเทพประสิทธิมนต์(เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร) เป็นต้น ปัจจุบันมีพระราชาคณะชั้นเทพ จำนวน 110 รูป
ชั้น 6 พระราชาคณะชั้นราช ใช้คำนำหน้าว่า “พระราช” ต่อด้วยราชทินนามที่พระราชทาน เช่น พระราชสิทธิโกศล(เจ้าอาวาสวัดอนงคารามวรวิหาร) พระราชพิพัฒนาภรณ์(เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ พระอารามหลวง) เป็นต้น ปัจจุบันมีพระราชาคณะชั้นราช จำนวน 251 รูป
ชั้น 7 พระราชาคณะชั้นสามัญ ใช้คำนำหน้าว่า “พระ” ต่อด้วยราชทินนามที่พระราชทาน เช่น พระกิตติวงศ์เวที(ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ) พระเมธีวรญาณ(ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร) ปัจจุบันมีพระราชาคณะชั้นสามัญ จำนวน 554 รูป
ชั้น 8 พระครูและพระมหาเปรียญ ใช้คำนำหน้าว่า “พระครู” และ “พระมหา” ต่อด้วยราชทินนาม ที่พระราชทานและชื่อตามบัตรประชาชนของพระสงฆ์ เช่น พระครูวศินปริยัตยากร(เจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย) พระครูวิบูลเจติยานุรักษ์(เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์) พระมหานคร จรณธมฺโม ป.ธ.9 (เจ้าอาวาสวัดท่าช้าง เจ้าคณะอำเภอเมืองชัยนาท) พระมหาบุญชัย ปภสฺสรเมธี ป.ธ.9 (ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง) เป็นต้น ปัจจุบันมีพระครูและพระมหาเปรียญ จำนวน 14,864 รูป (ไม่นับรวมพระครูฐานานุกรม) นอกจากนี้ มีพระครูซึ่งเป็นฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นราชขึ้นไปจนถึงฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราช เป็นฐานานุกรมที่ใช้คำนำหน้าว่า “พระครู” เช่น พระครูปลัด พระครูวินัยธร พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น
ชั้น 9 พระฐานานุกรม ใช้คำนำหน้าว่า “พระปลัด” “พระสมุห์” และ “พระใบฎีกา” รวมจำนวน 3 ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญแต่งตั้งได้เองตามที่เห็นสมควรตำแหน่งละ 1 รูป เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ ในศาสนกิจของพระราชาคณะในชั้นนี้ เช่น พระใบฎีกา เอกกมล กิตฺติภทฺโท วัดเทวสุนทร ฐานานุกรม ในพระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี พระอารามหลวง เจ้าคณะเขตบางเขน-จตุจักรแบ่งเบาภาระหน้าที่ กองงานเลขานุการเจ้าคณะเขตบางเขน-จตุจักร เป็นต้น ปัจจุบันมีพระฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นสามัญ จำนวน 1,662 รูป
สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร
ภาพ : .postjung.com/
Leave a Reply