อาจารย์ “มจร” เปิดพระไตรปิฏก อธิบายคำว่า “เชื่อมจิต” ปรากฏมีหรือไม่!! วันที่ 19 ธันวาคม 66 ดร.อธิเทพ ผาทา คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้โพสต์ข้อความอธิบายเรื่อง “การเชื่อมจิต” ในเฟชบุ๊คส่วนตัว Naga King ว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับคำที่เด็กที่สมมติตัวเองว่าเป็นพระพุทธเจ้าได้กล่าวเอาไว้ว่า “ในสมัยพุทธกาลก็มีการใช้จิตติดต่อกัน หรือสนทนากันทางจิตที่น้องคนนั้นใช้คำว่า”การเชื่อมจิต” ซึ่งการอธิบายของน้องเห็นว่าตนเองนั้นสามารถเชื่อมจิตกับสานุศิษย์ได้ ซึ่งคำที่น้องใช้นั้นไม่มีปรากฏในพระไตรปิฎก แต่พระไตรปิฎกก็มีการบันทึกพุทธพจน์เอาไว้ โดยเฉพาะในเรื่องนี้พระพุทธองค์ทรงใช้คำว่าเป็น “การเข้าอาเนญชสมาธิ ” ไม่ใช้คำว่าการเชื่อมจิตแต่อย่างใด ซึ่งคำว่า “อาเนญชสมาธิ”นี้ในคัมภีร์อธิบายว่า อาเนญชสมาธิ หมายถึง สมาธิอันสัมปยุตด้วยอรหัตตผลมีฌานที่ ๔ เป็นพื้นฐาน อาจารย์บางพวกกล่าวว่ามีอรูปฌานเป็นพื้นฐาน เหตุที่พระผู้มีพระภาคทรงเข้าอาเนญชสมาธิ เพราะทรงประสงค์จะแสดงว่าภิกษุเหล่านั้นมีสัมโภคะเสมอกับพระองค์ และทรงประสงค์จะแสดงให้ปรากฏว่าภิกษุเหล่านั้นบรรลุพระอรหัตตผลโดยไม่ต้องทรงเปล่งพระวาจา (ขุ.อุ.อ. ๒๓/๑๙๕) ซึ่งในคัมภีร์ระบุชัดครับว่าการเข้าสมาธิแล้วใช้จิตในภาวะของการเข้าสมาธิสามารถพูดคุยกันได้ แต่…คนที่จะสามารถทำได้เช่นนี้จะมีเฉพาะพระอรหันต์เท่านั้นที่ทำได้ ส่วนบุคคลที่เป็นปุถุชนหรือมีระดับจิตที่ต่ำนั้นจะไม่สามารถทำได้เลย ภาษาคัมภีร์ท่านเรียกการเข้าสมาธินี้ว่าเป็นการสื่อสารกันทางจิตหรือการพูดคุยกันทางจิต ไม่ได้ใช้คำว่าการเชื่อมจิต เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้ถึงลักษณะของการพูดคุยหรือสื่อสารกันทางจิตระหว่างพระอรหันต์กับพระอรหันต์ด้วยกันนั้นก็จะมให้พิจารณาจากเรื่องราวในพระสูตร ดังต่อไปนี้ @ การสนทนาทางจิตของพระอรหันต์กับพระพุทธองค์ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี สมัยนั้น ภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูปมีพระยโสชะเป็นหัวหน้าเดินทางมาถึงกรุงสาวัตถีโดยลำดับเพื่อจะเฝ้าพระผู้มีพระภาค ภิกษุอาคันตุกะเหล่านั้นแลกำลังทักทายกับภิกษุเจ้าถิ่น ปูลาดเสนาสนะ เก็บบาตรและจีวรอยู่ จึงได้ส่งเสียงอื้ออึง ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงเรียกพระอานนท์มาตรัสว่า “อานนท์ ภิกษุพวกไหนส่งเสียงอื้ออึงเหมือนพวกชาวประมงแย่งปลากัน”ท่านพระอานนท์ทูลตอบว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูปเหล่านั้น มีพระยโสชะเป็นหัวหน้าเดินทางมาถึงกรุงสาวัตถีโดยลำดับเพื่อจะเฝ้าพระผู้มีพระภาค ภิกษุอาคันตุกะเหล่านั้นแลกำลังทักทายกับภิกษุเจ้าถิ่น ปูลาดเสนาสนะเก็บบาตรและจีวรอยู่ จึงได้ส่งเสียงอื้ออึง พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อานนท์ ถ้าเช่นนั้น เธอจงเรียกภิกษุเหล่านั้นมาหาเราว่า พระศาสดารับสั่งหาท่านทั้งหลาย” ท่านพระอานนท์ทูลรับสนองพระดำรัสแล้วเข้าไปหาภิกษุเหล่านั้นถึงที่อยู่ ได้กล่าวกับภิกษุเหล่านั้นว่า “พระศาสดารับสั่งหาท่านทั้งหลาย” ภิกษุเหล่านั้นรับคำของท่านพระอานนท์แล้วพากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร พระผู้มีพระภาคจึงตรัสถามภิกษุเหล่านั้นดังนี้ว่า “ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุอะไร เธอทั้งหลายจึงส่งเสียงอื้ออึงเหมือนพวกชาวประมงแย่งปลากัน” เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสถามอย่างนี้ ท่านพระยโสชะจึงกราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูปเหล่านี้เดินทางมาถึงกรุงสาวัตถีโดยลำดับ เพื่อจะเฝ้าพระผู้มีพระภาค ภิกษุอาคันตุกะเหล่านั้นทักทายกับภิกษุเจ้าถิ่น ปูลาดเสนาสนะ เก็บบาตรและจีวรอยู่ จึงได้ส่งเสียงอื้ออึง พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงไปเสียเถิด เราขับไล่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายไม่ควรอยู่ในสำนักของเรา” @ ภิกษุถูกขับออกไปจากสำนักของพระพุทธเจ้า ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระดำรัสแล้วพากันลุกจากที่นั่ง ถวายอภิวาทแล้วทำประทักษิณ เก็บเสนาสนะ ถือบาตรและจีวรเที่ยวจาริกไปทางแคว้นวัชชีเที่ยวจาริกไปโดยลำดับจนถึงแคว้นวัชชีแล้วไปที่แม่น้ำวัคคุมุทา สร้างกุฎีมุงด้วยใบไม้เข้าอยู่จำพรรษาใกล้ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา ครั้งนั้น ท่านพระยโสชะผู้เข้าจำพรรษาอยู่ด้วย ได้เรียกภิกษุทั้งหลายมากล่าวว่า “ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคทรงมุ่งหวังประโยชน์ แสวงหาประโยชน์ ทรงอนุเคราะห์ อาศัยความอนุเคราะห์ จึงทรงขับไล่พวกเรา เอาเถิดท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ขอพวกเราจงอยู่อย่างที่พระผู้มีพระภาคทรงมุ่งหวังประโยชน์แก่พวกเราเถิด” @ พระภิกษุปฏิบัติธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ ภิกษุเหล่านั้นรับคำของท่านพระยโสชะ แล้วก็ปลีกตัวไป ไม่ประมาท มีความเพียร อุทิศกายและใจอยู่ ภายในพรรษานั้นนั่นแล ทุกรูปก็ได้ทำให้แจ้งวิชชา๓ ประการ (คือ (๑) ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ (๒) ทิพพจักขุญาณ (๓) อาสวักขยญาณ (ขุ.อุ.อ. ๒๓/๑๙๓) @ พระพุทธองค์ทรงทรายและตรัสเรียกให้เข้าเฝ้า ? ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคครั้นประทับอยู่ในกรุงสาวัตถีตามพระอัธยาศัยแล้วจึงเสด็จจาริกไปทางกรุงเวสาลี เสด็จจาริกไปโดยลำดับจนถึงกรุงเวสาลี ประทับอยู่ณ กูฏาคารศาลาในป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลีนั้น ขณะประทับอยู่ที่นั้น พระผู้มีพระภาคทรงมนสิการกำหนดจิตของภิกษุที่อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทาด้วยพระทัย แล้วรับสั่งเรียกท่านพระอานนท์มาตรัสว่า “อานนท์ ทิศที่ภิกษุผู้อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทาอยู่จำพรรษานี้ เป็นเหมือนเกิดแสงสว่าง เป็นเหมือนเกิดรัศมี ปรากฏแก่เรา เธอคงไม่รังเกียจที่จะไปเพื่อความสนใจของเรา อานนท์ เธอพึงส่งภิกษุผู้เป็นทูตไปพบภิกษุผู้อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทาพร้อมกับสั่งว่า พระศาสดารับสั่งหาท่านทั้งหลาย พระศาสดามีพระประสงค์จะพบท่านทั้งหลาย” ท่านพระอานนท์ทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว เข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่งถึงที่อยู่ และได้ส่งพระรูปนั้นไปพบภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทาถึงที่อยู่แล้วบอกเรื่องนั้นแก่พระเถระกลุ่มนั้น ภิกษุเหล่านั้นรับคำของภิกษุนั้นแล้วเก็บเสนาสนะ ถือบาตรและจีวรพร้อมกับหายไปจากฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา ไปปรากฏเบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาค ณ กูฏาคารศาลาในป่ามหาวัน เหมือนคนมีกำลังเหยียดแขนออกหรือคู้แขนเข้า ฉะนั้น @ พระพุทธองค์ทรงเข้าอาเนญชสมาธิ คุยกับพระอรหันต์ตลอดคืน ขณะนั้น พระผู้มีพระภาคประทับนั่งเข้าอาเนญชสมาธิ ครั้งนั้น ภิกษุเหล่านั้นได้มีความคิดอย่างนี้ว่า “บัดนี้ พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ด้วยวิหารธรรมไหนหนอ” ครั้นแล้ว ภิกษุเหล่านั้นก็ได้รู้ว่า “บัดนี้ พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ด้วยอาเนญช-วิหารธรรม” ทุกรูปจึงพากันนั่งเข้าอาเนญชสมาธิ ครั้งนั้น เมื่อราตรีผ่านไปแล้ว ปฐมยาม-มัชฌิมยามและปัจฉิมยามผ่านไปแล้ว ท่านพระอานนท์ก็ลุกจากที่นั่ง ห่มจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมมือไปทางพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ราตรีผ่านไปแล้วปฐมยาม-มัชฌิมยามและปัจฉิมยามผ่านไปแล้ว เข้ารุ่งอรุณ เริ่มสว่าง ภิกษุอาคันตุกะนั่งอยู่นานแล้ว ขอพระผู้มีพระภาคทรงทักทายกับภิกษุอาคันตุกะด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า”เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคก็ยังประทับนิ่งอยู่ ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคก็เสด็จออกจากสมาธินั้น รับสั่งเรียกท่านพระอานนท์มาตรัสว่า “อานนท์ ถ้าเธอพึงรู้ไซร้ ความแจ่มแจ้งแม้นี้ก็ยังไม่ปรากฏชัดแก่เธอ อานนท์ เรากับภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านี้ทั้งหมดได้นั่งเข้าอาเนญชสมาธิ” @ คำอธิบาย จากพระสูตรนี้เราจะพบว่า คำว่า “การเชื่อมจิต”หากจะพิจารณาจากเนื้อหาคำที่น้องประดิษฐ์มาใช้ ในคัมภีร์ก็มีแต่ไม่ได้ใช้คำว่าการเชื่อมจิตแบบที่น้องว่า หากแต่ในคัมภีร์ใช้คำว่าเป็นการเข้าสมาธิคุยกันเรียกสมาธินั้นว่า “อาเนญชสมาธิ ” ซึ่งสมาธินี้จะใช้ได้เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้น พระอริยบุคคลต่ำกว่านี้ก็ใช้ยังไม่ได้ หรือใช้ได้แต่ก็ไม่เท่าเทียมกับพระอรหันต์ สำหรับปุถุชนนั้งหลายแม้แต่น้องก็ทำไม่ได้ ยิ่งน้องจะมาเชื่อมจิตกับคนทั่วไปแล้วยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หลักคัมภีร์ท่านระบุไว้เฉพาะพระอรหันต์ เท่านั้น ส่วนน้องจะมาบอกว่าทำได้นั้นก็ให้ว่าไปตามความเข้าใจของตัวน้องเองก็แล้วกันนะครับ สำหรับผมการที่น้องพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ต้องไปสงสัยอะไรมาก สรุปแล้วน้องเข้าใจและเชื่อว่า (๑) ตัวเองเป็นพระอรหันต์ หรือ (๒) น้องเป็นพระพุทธเจ้าที่เกิดมาแล้วมีสภาวะจิตที่อยู่ในระดับของพระอรหันต์หรือระดับของพระพุทธเจ้าเลยทีเดียว แหม…ถ้าเป็นพระผมปรับอาบัติปาราชิกน้องไปแล้วนะเนี่ยในฐานะอวดอุตริมนุสสธรรม เพราะมันเข้าเกณฑ์ของปาราชิกเลยนะครับ จำนวนผู้ชม : 3,179 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงรับเป็นที่ปรึกษาโครงการจัดทำพระไตรปิฏกฉบับภาษาอังกฤษ อุทัย มณี ส.ค. 23, 2022 วันที่ 23 สิงหาคม 65 พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์ (พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส)… ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ! “พระมหาไพรวัลย์” สึกแล้วก่อนหนดวันประกาศ อุทัย มณี ธ.ค. 03, 2021 เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2564 ตามที่พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ… มท.ปลื้ม!ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 6 เดือนยอดทะลุ 1,200 ล้าน อุทัย มณี พ.ย. 24, 2018 มท.1 เปิดงาน มหกรรมความสำเร็จโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ชู “ชุมชนท่องเที่ยว… ชาวพุทธเมียนมาจุดประทีป วันออกพรรษาที่วัดเรืองยศสุทธาราม อุทัย มณี ต.ค. 15, 2019 พุทธศาสสนิกชนเมียนมา จัดงานสืบสานประเพณีเก่าแก่ไต้ประทีปพุทธบูชาที่วัดเรืองยศสุทธาราม… วัดไทยอินเดีย “ทำดี” แจกอาหารแห้งทุกเดือน อุทัย มณี มิ.ย. 14, 2021 วันที่ 13 มิ.ย. 64 พระมหานิพนธ์ ญาณวีโร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา… พระเทพเวที ประชุมออนไลน์คณะสงฆ์ภาค 6 ติดตามภารกิจของคณะทั้ง 6 ด้านและมติมหาเถรสมาคม อุทัย มณี ก.ค. 01, 2020 เมื่อวานนี้ (30มิ.ย.63) เวลา 13.00-16.00น.พระเทพเวที,รศ.ดร. (พล อาภากโร… เขียนถึง “ดร.อุทิส ศิริวรรณ” หลังประกาศ “อาจลงการเมือง” อุทัย มณี ส.ค. 18, 2021 เห็น ดร.อุทิส ศิริวรรณ โพสต์เฟชบุ๊คถามถึงเงินเยียวยาของพระภิกษุ… ในหลวง-เจ้าคุณพระทรงรับ “เจ้าคุณเสวย” ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ อุทัย มณี ก.พ. 23, 2021 วันนี้ (23 ก.พ.63 ) คณะศิษยานุศิษย์ของ พระสุนทรกิจโกศล… ครั้งแรก “พุทธทิเบต” บวช “ภิกษุณี” ในประเทศภูฎาน อุทัย มณี ส.ค. 20, 2022 วันที่ 20 สิงหาคม 2565 เฟซบุ๊ค Soraj Hongladarom ซึ่งเป็นของ ศ.ดร.โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์… Related Articles From the same category มจร ส่วนกลางการ์ดไม่ตก ! มาตรการคัดกรองบุคคลป้องกันการแพร่ไวรัสโควิด-19 ยังเข้ม!! วันนี้ (14 ก.ค 63) ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย… ช่วงโค้งสุดท้าย!แผ่นดินธรรมลุยใต้ ขอแบ่งคะแนนหนุนชูศีลธรรมนำชาติ วันที่ 8 มี.ค. 2562 ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศที่จะมีขึ้นในวันที่… ปิดฉากวิสาขะเวียดนามยิ่งใหญ่ ปฏิญญาฮานามยก ‘เอไอ’ ตัวช่วยแผ่พุทธ พระพรหมบัณฑิตเล็งมอบ มจร พัฒนาช่วยงานคณะสงฆ์ ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลก… “เจ้าคุณว.” แนะบทบาทศาสนา ต้องปรับจูนเข้ากับคนรุ่นใหม่สร้างชาติแบบมีสติ "เจ้าคุณว."เตือนระวังเครื่องมือขยายโกหกบนสื่อออนไลน์สร้างความเกลียดชัง… พิธีกรรมเด่น รวมสุดยอดมวลสาร รูปแบบโด่ดีเด่น พระสมเด็จ100ปี!!… ฉลองอายุ 100 ปีหลวงพ่อพัฒน์วัดห้วยด้วน พระสมเด็จ100ปี ฉลองอายุ 100 ปี หลวงพ่อพัฒน์จัดสร้างขึ้นในวาระครบรอบอายุหลวงพ่อพัฒน์100ปี…
Leave a Reply