“เจ้าคณะภาค14″ ชื่นชมคณะสงฆ์สมุทรสาคร โดยเฉพาะการขับเคลื่อนหมู่บ้านศีล 5 พร้อมขอให้ทุกวัดเปิดโบสถ์ให้ประชาชนเข้ากราบได้ทุกวัน

วันที่ 2 กรกฏาคม 2567 ณ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร มีการประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการในเขตปกครองคณะสังฆ์จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เจ้าคณะภาค 14 เป็นประธาน โดยมีเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 2 นิกาย คณะสังฆ์ในจังหวัด พร้อมพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ถวายการต้อนรับ

พระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสมัครสาคร ได้กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นไปตามมติของมหาเถรสมาคมที่ได้มีมติให้เจ้าคณะภาคร่วมกับเจ้าคณะจังหวัด จัดประชุมพระสังฆาธิการในทุกระดับชั้นปีละ 1 ครั้ง นั้น คณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้จัดประชุมขึ้น ณ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการจัดประชุมร่วมกันทั้งคณะสงฆ์มหานิกายและคณะสงฆ์ธรรมยุต เพื่อความสมัครสมานสามัคคีปรองดองสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมแบบพหุภาคีของจังหวัดสมุทรสาครระหว่างพระสังฆาธิการ และข้าราชการทั้งฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญบ้าน และผอ.รพ.สต เพื่อทำความเข้าใจบูรณาการ การปฎิบัติงานระหว่างคณะสงฆ์และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครมีความสุข มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

ด้าน พระธรรมวชิรานุวัตร กล่าว โดยสรุปว่า ขอชื่นชมคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสาครที่ขับเคลื่อนงานต่างๆ  เช่นการประชุมพหุภาคี ที่ถือว่าเป็นจังหวะเดียวในประเทศประเทศไทยที่มีการขับเคลื่อนโครงการประชุมพหุภาคีโดยเริ่มต้นจากอำเภอ จากอำเภอบ้านแพ้วอำเภอเมืองและอำเภอกระทุ่มแบน และในวันนี้ยังเป็นการประชุมตามมติมหาเถรสมาคม การประชุมพหุภาคีในระดับจังหวัดอีกด้วย จังหวัดสมุทรสาครถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่ขับเคลื่อนงานทั้ง 6 ด้านของคณะสงฆ์ได้เป็นอย่างดี และทั้งการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5  หน่วยอบรมประชาชน และขับเคลื่อนโครงการวัดประชารัฐ สร้างสุข คณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสาครก็ทำได้ดีมาก

“ในฐานะประธานกรรมการกลางขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 ขอชื่นชมจังหวัดสมุทรสาคร ที่สามารถขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ได้ในระดับที่หนึ่งถึงสามของประเทศ ซึ่งคณะสงฆ์ และส่วนราชการได้รวมกันขับเคลื่อนงานโครงการต่าง ๆ ด้วยกันเป็นอย่างดี และขอฝากให้ทุกวัดในจังหวัดสมุทรสาครเปิดโบสถ์ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปกราบพระประธานในโบสถ์ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น เพื่อเป็นแบบอย่างให้จังหวัดอื่น ๆ นำไปเป็นแบบอย่างต่อไป..”

Leave a Reply