วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13.00 น. ณ ศาลาการเปรียญ ดร.อุไรศรี คนึงสุขเกษม วัดมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระเทพปวรเมธี รองเจ้าคณะภาค 15 รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 หนกลาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล โดยมี พระราชวชิรมงคลวิสิฐ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี,พระโสภณพัฒนาคุณ วัดพุน้อย (เศรษฐกิจเรือทอง) จ.ลพบุรี,พระปริยัติวรานุกุล วัดสระเกศ กทม.,พระกิตติวชิรธาดา วัดราษฎร์ประคองธรรม จ.นนทบุรี,พระศรีรัตนาภิวัฒน์ รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี วัดศาลาลอย จ.สุพรรณบุรีพระมหาประกอบ โชติปุญโญ รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี วัดโชติทายการาม จ.ราชบุรี พระครูวิลาสกาญจนธรรม วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี และ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เป็นต้น ร่วมประชุม

พระเทพปวรเมธี กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เพื่อร่วมพูดคุยวางแผนการลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล 5 ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดย หลวงพ่อวัดปากน้ำ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งปัจจุบัน สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานกรรมการอำนวยการหมู่บ้านรักษาศีล 5

“สำหรับปีนี้ได้กำหนดลงพื้นที่เริ่มวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ที่จะถึงนี้โดยกำหนดลงพื้นที่ครั้งแรกจังหวัดนนทบุรี ต่อจากนั้นก็หมุนเวียนตามจังหวัดต่าง ๆ ประมาณ 23 จังหวัด ในภาคกลาง ซึงจะจบลงวันที่ 18 กันยายน 2567 งบประมาณในการลงพื้นที่นอกจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่ได้รับความอนุเคราะห์จากพระมหาเถระที่ร่วมเป็นกรรมเหล่านี้นี้แหละ เช่นวันนี้ พระธรรมรัตนมงคล วัดพนัญเชิง จังหวัดอยุธยา สนับสนุนมา 50,000 บาท หลวงพ่อพระเทพสมุทรวัชราจารย์ วัดบางพลีใหญ่ สมุทรปราการให้มา 100,000 บาท นอกจากนี้มีอีกหลายรูป ๆละ  20,000 บ้าง 30,000 บ้าง ส่วนตัวพูดพูดร่วมด้วย 50,000 บาท สำหรับการลงพื้นที่ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากกรรมการหลายท่าน เช่น วัดพุน้อย วัดเศรษฐีเรือทอง ในฐานะที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 3 นอกจากสนับสนุนเบื้องต้น 30,000 บาท แล้ว การลงพื้นที่ในภาค 3 จำนวน 4 จังหวัด เรื่องที่พัก การต้อนรับ ท่านรับผิดชอบทั้งหมด เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ก็ร่วมด้วยช่วยกัน เนื่องจากกิจกรรมโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 นี้ เป็นงานเสมือนจิตอาสา งานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์ประการหนึ่งเช่นกัน..”

โครงการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล5) เกิดขึ้นจากสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย ประกอบด้วย การกระทำผิดกฎหมาย ปัญหาอาชญากรรม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม การระบาดของสิ่งเสพติด และอบายมุข การแตกแยกทางความคิด การเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม และการจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการขาดสติ จิตสำนึก ศีลธรรมและคุณธรรมจริยธรรม อันจะส่งผลให้สังคมเกิดความขัดแย้ง คณะสงฆ์ โดย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีดำริที่จะเสริมสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติ ให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสามัคคีกลมเกลียว กัน โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน

ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ในขณะนั้น ได้ให้แนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการให้ทุกภาคส่วนในประเทศร่วมมือกันดำเนินการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และทำให้ประชาชนมีความรักความสามัคคีกันขึ้นในทุกส่วนของประเทศ ตามดำริที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้ประทานโอวาทไว้ เมื่อวันที่ 17พฤศจิกายน 2556 ความว่า “อันว่าศีล 5 เป็นการสำคัญมนุษย์ เมื่อทุกคนมีศีล 5 ด้วยกัน สังคมนั้นๆ คือประชาชน ย่อมจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อเป็นไปได้ ขอให้ชื่อหมู่บ้านนั้นว่า หมู่บ้านรักษาศีล 5”