วันที่ 23 ตุลาคม 2567 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประธานสถาบันการสร้างชาติ (NBI) และประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา(IFD) โพสต์กล่าวถึงกรณี พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี บรรยายธรรมให้กับบุคคลในบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป และมีปรากฏภาพการเดินทางร่วมกันจนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและถูกฟ้องร้องว่าเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชนว่า ส่วนตัวคิดว่า เราควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์และดึงพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี มาเกี่ยวข้อง เพราะ ท่านเป็นบุคคลที่อุทิศชีวิตให้กับการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่านบวชเรียนและศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้งจนสำเร็จเป็นเปรียญธรรม 9 ประโยค ซึ่งเป็นการศึกษาขั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย นอกจากการศึกษาทางวิชาการแล้ว ท่านยังปฏิบัติสมาธิและภาวนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเผยแผ่หลักธรรมคำสอนให้แก่ประชาชนทั่วประเทศผ่านการบรรยาย การเขียนหนังสือ และการทำงานเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 30 ปี ถือว่าท่าน ว.วชิรเมธี เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมแก่สังคมไทยอย่างมาก ซึ่งการถูกนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจน ควรทำอย่างระมัดระวังและพิจารณาข้อเท็จจริงให้ถี่ถ้วน ซึ่งตนคิดว่าการทำร้ายพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ทำให้เกิดผลเสียต่อสังคมโดยรวมหลายประการ

ขณะที่ ถือเป็นการสั่นคลอนความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาของคนในสังคม พระสงฆ์เป็นศูนย์กลางในการให้คำแนะนำและปลูกฝังหลักธรรมในสังคม การวิจารณ์พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนของพระพุทธศาสนา อาจทำให้ผู้คนสูญเสียความเชื่อมั่นในหลักธรรมคำสอนหรือแม้แต่ในสถาบันพระสงฆ์เอง ในยุคที่ศาสนาเป็นที่พึ่งทางจิตใจของคนจำนวนมาก การโจมตีพระสงฆ์โดยเฉพาะผู้ที่มีบทบาทสำคัญ อาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางจิตใจและส่งผลกระทบต่อความศรัทธาของสาธารณชนที่อาศัยศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และส่งผลให้คนเริ่มลดความศรัทธาหรือหันเหไปจากศาสนา นอกจากนี้ยังเป็นการบั่นทอนจิตใจของผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ยึดมั่นในคำสอนของพุทธศาสนา การวิพากษ์วิจารณ์ท่านอาจทำให้ผู้ศรัทธาเกิดความรู้สึกสับสนหรือสูญเสียศรัทธาในตัวท่าน รวมถึงในหลักธรรมคำสอนเอง ความเชื่อมั่นในผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกเขาอาจถูกทำลาย และทำให้หลายคนรู้สึกหมดหวัง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการลดลงของผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนทางศาสนา สร้างความอ่อนแอให้กับสังคมในระยะยาว

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ มองด้วยว่า เหตุดังกล่าวจะเป็นการสร้างความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคม เพราะการวิจารณ์หรือการแพร่ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน มักจะก่อให้เกิดการแบ่งแยกความคิดเห็นในสังคม ผู้คนอาจแบ่งออกเป็นฝ่ายที่สนับสนุนพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี และฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์ท่าน ซึ่งความขัดแย้งเช่นนี้มักนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งหรือความไม่สงบในชุมชน สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้สังคมแตกแยกและขาดความสามัคคี ซึ่งในช่วงเวลาที่สังคมต้องการความร่วมมือและการสร้างเอกภาพ การกระทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดปัญหาสังคมที่ใหญ่ขึ้น ท้ายที่สุด จะเป็นการสูญเสียโอกาสจากการเผยแผ่ธรรมะและการสร้างจริยธรรมในอนาคต

การมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์เพียงครั้งเดียวและมองข้ามคุณประโยชน์ที่พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ได้สร้างไว้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาจส่งผลให้สังคมสูญเสียโอกาสในการรับประโยชน์จากการเผยแผ่ธรรมะและการสร้างจริยธรรมในอนาคต การวิจารณ์หรือโจมตีท่านไปก่อน อาจทำให้ท่านเสียชื่อเสียง จนอาจทำให้โอกาสที่ท่านจะมีบทบาทในการเผยแผ่ธรรมะหรือทำงานเพื่อสังคมในอนาคตน้อยลง ซึ่งจะเป็นการลดโอกาสในการพัฒนาสังคมทั้งด้านจิตวิญญาณและความสงบสุขของคนไทย และ อาจส่งผลให้สังคมเสียบุคคลที่มีศักยภาพในการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นในอนาคต

“การที่จะวิพากษ์วิจารณ์ใครก็ตามควรพิจารณาถึงความจริงที่ครบถ้วนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น การสร้างความเข้าใจผิดอาจนำไปสู่การบั่นทอนความศรัทธาและความเชื่อมั่นของคนในสังคม พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมไทย การที่ท่านถูกเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ชัดเจน ควรเป็นเหตุผลให้เราพิจารณาด้วยความรอบคอบ ไม่ควรด่วนสรุปหรือกล่าวโทษท่านจากเหตุผลครั้งเดียว โดยไม่คำนึงถึงภาพรวมของสิ่งที่ท่านได้ทำเพื่อสังคมในอดีตที่ผ่านมา” ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ เป็นนักวิชาการชื่อดัง มีผลงานเขียนหนังสือหลายเล่ม เคยลงสมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเปิดการอบรมการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ และที่สำคัญเป็นคริสต์ศาสนิกชน