วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เฟชบุ๊ค PM-Narin Narinto ซึ่งเป็นเฟชส่วนตัวของ พระมหานรินทร์ นรินฺโท ป.ธ.9 เจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ถึง พระวิสุทธิวงศ์วิเทศ หรือ “เจ้าคุณเดนมาร์ค” เจ้าอาวาสวัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร ว่า เป็นผู้ชำนาญในกิจการต่างประเทศ พระพรหมสิทธิ  เจ้าอาวาสวัดสระเกศ  สมัยยังดำรงตำแหน่งประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เห็นคุณสมบัติดังกล่าวจึงดึงมาร่วมงาน โดยมีเนื้อความว่า  คิดถึงเจ้าคุณเดนมาร์ก

ในแวดวงพระธรรมทูตไทยสายต่างประเทศ ทั้งในยุโรปและสหราชอาณาจักร ต่างก็ต้องยอมรับในความกว้างขวางของ “พระวิสุทธิวงศ์วิเทศ-สุทธิพงศ์ สุทฺธิวํโส” เจ้าอาวาสวัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร ว่ามีความชำนาญในกิจการต่างประเทศระดับปรมาจารย์ แต่ต้องคดี “เงินทอนวัด” เช่นเดียวกัน จึงส่งผลให้เจ้าคุณเดนมาร์กไม่สามารถเดินทางกลับสู่ประเทศไทยได้ ซึ่งน่ามีการเคลียร์ให้กระจ่าง  เพื่อช่วยงานกิจการพระศาสนาในต่างประเทศ

พื้นฐานเดิมของท่านเจ้าคุณเดนมาร์กนั้น ท่านเป็นนักศึกษาในประเทศอังกฤษ เมื่อเรียนจบแล้วก็กลับมาประเทศไทย เข้าทำงานกับสายการบิน จนกระทั่งเกิดเบื่อสังคม จึงหันหน้าเข้าสู่วัด ต่อด้วยการไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของครูบาพรหมา (พระสุพรหมญาณเถร) วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ก่อนชะตาชีวิตจะลิขิตให้ท่านต้องเดินทางไปสร้างวัดไทยในประเทศเดนมาร์กขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นวัดไทยอันดับต้นๆ ของยุโรปด้วย

ด้วยความมีประสบการณ์การทำงานระดับอินเตอร์ ทำให้พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ สมัยยังดำรงตำแหน่งประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เห็นคุณสมบัติอันเอกอุดังกล่าว จึงได้นิมนต์ให้มาช่วยงานด้านการประสานงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบอังกฤษและยุโรป ได้เจ้าคุณเดนมาร์กดูแลก็สบายไปร้อยแปด เพราะท่านแก้ปัญหาได้ทุกระดับประทับใจ

แต่..แต่ในการบริหารจัดการระดับ ซีอีโอ นั้น ทำให้ต้องตัดสินใจอย่างฉับไว รอช้าไม่ได้ ไม่งั้นงานไม่เดิน ครั้นพอเกิดกรณีเงินทอนวัดขึ้นมา ซึ่ง พระพรหมสิทธิ ถูกรัฐบาลเผด็จการกล่าวหา ท่านเจ้าคุณเดนมาร์กก็เลยพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ทำนองคดีการเมือง ส่งผลให้เจ้าคุณเดนมาร์กไม่สามารถเดินทางกลับสู่ประเทศไทยได้ เพราะมีคดีความค้างศาลไว้ เหมือนกรณีพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) วัดสัมพันธวงศ์ อดีตโฆษกมหาเถรสมาคม

วันนี้ เมื่อกรณีพระพรหมสิทธินั้น ได้ผ่านพ้นไปอย่างไร้มลทินแล้ว กรณีของเจ้าคุณเดนมาร์กซึ่งเป็นคดีในกลุ่มเดียวกัน ก็น่าจะมีการเคลียร์ให้กระจ่าง ไม่น่าปล่อยให้คาราคาซัง พระที่ท่านทำงานเพื่อพระศาสนาในต่างประเทศ พอเห็นแบบนี้แล้วก็เหนื่อยใจ ยิ่งได้เห็นวัดสระเกศจัดงานใหญ่หลายงาน มีภาพพระมากมายไปร่วมงาน แต่ไม่มีภาพเจ้าคุณเดนมาร์กเหมือนเคย ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า ขาดใครไปหนอ