“มจร” แจงไม่มีนิสิตจีนต่อวีซ่าหัวละ 10,000 บาท ตามข่าว

วันที่ 21 เมษายน 2568  กรณีที่ปรากฎข่าวว่ามีนิสิตชาวจีนที่มาศึกษาอยู่ในวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไปขอต่อวีซ่า ไปทำวีซ่าที่ตรวจคนเข้าเมืองลำพูน (ตม)โดยที่คนเหล่านี้ไม่ใช่นิสิตไม่ได้เรียนจริงแต่อาศัยช่องทางนี้ทำทุจริตทำผิดกฎหมายและทำมาหากินบนคราบนิสิต โดยเบื้องต้นได้เรียกรับเงินรายหัว ๆ 10,000 บาท มีรถรับส่งในการไปทำวีซ่านิสิตและเมื่อได้วีซ่าแล้วก็ส่งกระจายคนจีนเหล่านี้ออกไปทำงานตามไซต์งานต่าง ๆ แบบผิดกฎหมาย ดังปรากฏข่าวไปแล้วนััน

ล่าสุดวันนี้  วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้แจ้งแจงกรณีดังกล่าว 4 ประเด็น คือ 1. วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เปิดโครงการหลักสูตรระยะสั้น 6 เดือน 1 ปีเพื่อบริการวิชาการแก่ชาวต่างชาติ ซึ่งมีกระบวนการในการรับสมัครนักศึกษานั้น มหาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารการสมัครเรียนอย่างรอบคอบแล้วจึงออกหนังสือรับรองความเป็นนักศึกษาให้แก่นักศึกษาชาวต่างชาติ เพื่อยื่นเสนอขออนุญาตการตรวจลงตราในหนังสือเดินทาง(วีซ่า) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดลำพูน  2. ในระหว่างการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยฯ มีการตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาโดยตลอด ได้รายงานให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดลำพูนเป็นประจำทุกเดือน โดยมหาวิทยาลัยฯ ได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดลำพูน หากพบว่านักศึกษาชาวต่างชาติ ไม่เข้าเรียนตามหลักสูตร หรือไม่สามารถติดต่อได้ ทางมหาวิทยาลัยฯจะแจ้งให้สำนักงานตรวจคนเมืองจังหวัดลำพูนทราบเพื่อระงับหนังสือเดินทาง (วีซ่า) ของนักศึกษารายดังกล่าวเป็นรายกรณีไป 3. วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิพยาลัยมหาจุหาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่มีการดำเนินการขอต่อวีซ่าให้กับ นักศึกษา หรือเรียกรับเงินการขอเปลี่ยน/ต่อวีซ่า จากนักศึกษาชาวต่างชาติ และไม่มีการจัดหารถตู้รับ-ส่งแต่อย่างใด และ 4. วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่ทราบและไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับการกระจายเข้าไซต์งานทั่วประเทศของคนจีน หรือชาวต่างชาติ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ทางด้าน พระเทพวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้มหาวิทยาลัยส่วนกลางได้รับทราบและรับรายงานข้อเท็จจริงจากวิทยาลัยสงฆ์ลำพูนแล้วและทางวิทยาลัยสงฆ์ลำพูนก็ได้ให้ฝ่ายบ้านเมืองทั้งปกครอง (จังหวัด) ตำรวจเข้ามาดูข้อเท็จจริงและตรวจสอบแล้วเบื้องต้นแล้วและได้ทำรายงานเสนอข้อเท็จจริงไปให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้ว วันนี้จึงขอยืนยันว่า วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่ได้มีนิสิตจีนที่ทำการหลอกลวง ไม่ได้เรียนจริง ไม่ได้เป็นนิสิตแต่อาศัยช่องทางนี้ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ในการจัดการศึกษาของวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแน่นอน

พระเทพวัชรสารบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า มหาวิทยาลัยเราเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เราคำนึงและตระหนักถึงกฎหมาย พระธรรมวินัย วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิทยาลัยส่วนกลาง วิทยาเขต 12 แห่ง วิทยาลัยสงฆ์ 27 แห่ง หน่วยวิทยบริการ 5 แห่ง ทั่วประเทศและสถาบันสบทบในต่างประเทศ 4 แห่ง เรามีผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิตปีการศึกษาละไม่ต่ำกว่า 25,000 รูป/คน เราจะนำพามหาวิทยาลัยไปสู่ความเสียหายเช่นนั้นได้อย่างไร

Leave a Reply