คุณูปการ “จำนงค์ ทองประเสริฐ” ปูชนียาจารย์ชาว “มจร”

“ผู้เขียน” เป็นศิษย์ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต มจร รุ่น 46  ยุคสมัยที่พวกเราชาวมจร ยังเรียนอยู่ที่ศูนย์วัดศรีสุดาราม และ วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ ยุคสมัยที่ “มจร” ยังไม่มีพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ถูกสังคมตราหน้าว่ายุค “มหาวิทยาลัยเถื่อน” เป็นยุคสมัยที่คณาจารย์บางคนมีค่าสอนเป็น “รายชั่วโมง”  ยุคที่ค่าเทอมแค่ 750 บาท

“ผู้เขียน” มีความภูมิใจทุกครั้งเวลาเจอผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง พูดถึง “อ.จำนงค์ ทองประเสริฐ” คือ แบบอย่างของชาวพุทธ และเป็นอย่างที่ดีของ “ผู้ลาพรต” ใช้ชีวิตสมถะ เรียบง่าย และรัก “มจร”

“ผู้เขียน” ภูมิใจทุกครั้งเมื่อพวกเราชาว “มจร” พูดถึง อ.จำนงค์ ทองประเสริฐ ว่าเป็น “ต้นแบบ” ให้พวกเราชาว “มจร” เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคณาจารย์ ที่ควรยึดแบบอย่าง ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกครั้งเมื่อได้พูดคุยกับลูกศิษย์

“ผู้เขียน” ครั้งหนึ่งเคยเจอ “วิษณุ เครืองาม” อดีตรองนายกรัฐมนตรี แนะนำตัวเองว่าตัวเองคือ ลูกศิษย์อาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ ท่านพูดถึง “อ.จำนงค์ ทองประเสริฐ” ว่า ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับชาวพุทธและผู้ลาเพศสมณะ ทั้งเป็น “ปูชนียาจารย์-เอกบุรุษ” สำหรับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต เป็นศิษย์รุ่นแรกของ มจร เมื่อปี 2497 และเริ่มต้นชีวิตการ งานในมหาจุฬาฯในปี 2498 จนถึงปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

“อ.จำนงค์ ทองประเสริฐ” เคยสัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมซึ่งเป็นนิสิตรุ่นแรกของมหาจุฬาฯ จบมา 6 รูป รุ่นที่ 2 จบ 4 รูป รุ่นที่ 3 จบแค่ 3 รูป เพราะบางคนรู้สึกว่าจบมาก็ไม่เป็นที่ยอมรับเลยไม่รู้จะเรียนไปทำไม ผมก็บอกเขาว่าการจะเรียกร้องให้รัฐบาลรับรองวิทยฐานะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เราจะไปบังคับขู่เข็ญให้เขารับรอง วิธีที่ดีที่สุดก็คือการสร้างผลงานให้เขาเห็น..”

และเล่าต่อไว้ เมื่อครั้งเป็นพระภิกษุไปสอนในโรงเรียนมีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง นับถือศาสนาคริสต์ ต้องการหันมานับถือพระพุทธศาสนา จึงมาปรึกษาท่าน ๆ  จึงแนะนำไปว่า “ถึงจะหันมสนับถือพุทธแต่ไม่ได้นำหลักคำสอนไปใช้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ไม่ใช่รักษาผู้รู้ธรรม ถึงคุณจะจบเปรียญ 9 ประโยค แต่ไม่ประพฤติปฏิบัติมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร..”

แล้วอะไรคือความภูมิใจของ ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ ท่านบอกว่า  “ความภาคภูมิใจนี่แหละ ถึงจะตีค่าตีราคาไม่ได้เหมือนกับเงินทองแต่มันก็มีความสุขนะ อย่างเวลาเราเห็นลูกศิษย์ลูกหาเป็นคนดี เราก็ภูมิใจว่าได้มีส่วนช่วยสร้างคนดีให้สังคม..”

“ผู้เขียน” เชื่อว่าพวกเรา ชาวมจร นอกจากรู้จักบทบาทของ “ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ” ในฐานะอาจารย์ผู้ประสาทวิชาตรรกศาสตร์แล้ว  ทุกคนคงทราบดีว่าท่านคือผู้มีส่วนสำคัญในการฟื้นฟู ผลักดัน กอบกู้และพัฒนาให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตั้งแต่ยุค “เสือผืน หมอนใบ” จนปัจจุบัน “อู้ฟู่”  และทั้งเป็น “มหาวิทยาลัยสงฆ์” แห่งเดียวในประเทศไทยที่ทั่วโลกยอมรับเดินทางมา “ผูกมิตร” ต่อเนื่อง

หากพวกเราภูมิใจในความเป็น “มจร” เราต้องภูมิใจ “คนขุดบ่อ” ผู้่ปิดทองหลังพระอย่าง“ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ” ด้วย ดังคำพูดของ “พระพรหมบัณฑิต”  ที่กล่าวไว้ว่า..ดื่มน้ำจากบ่อ อย่าลืมคนขุดบ่อ.

พรุ่งนี้วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เป็นวันเกิดและเป็น “วันจำนงค์ ทองประเสริฐ” ผู้บริหาร คณาจารย์ และศิษยานุศิษย์ มีกำหนดจัดงานฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 8 รอบ 96 ปี  ณ อาคารวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่ง มจร จัดเพื่อรำลึกถึงคุณุปการของครั้งนี้เป็นครั้งที่ 23 ลูกศิษย์ลูกหาเชิญไปแสดงความ “กตัญญูกตเวที” ร่วมกันได้ตามกำหนดการนี้

Leave a Reply