“ราชบัณฑิต” เฉลยที่มา “พุทโธ เม นาโถ”

วันที่ 13 พฤษภาคม 2568    ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ราชบัณฑิต  ในเฟชบุ๊คส่วนตัว “Banjob Bannaruji – บ้านบรรณรุจิ” เฉลย ที่มา  พุทโธ เม นาโถ  ธัมโม เม นาโถ  สังโฆ เม นาโถ โดยสืบค้นความเป็นมาและยืนยันว่าคำว่า “พุทโธ เม นาโถ” แม้ไม่มีในพระไตรปิฏก มีในอรรถกถารุ่นหลัง จึงไม่ใช่คำเถื่อน โดยได้อธิบายรายตอนที่ 2 ไว้ในเฟชบุ๊คส่วนตัวดังนี้

@ คำแปลตามตัวอักษรและตามรูปคำที่มี พุทโธ เม นาโถ  พระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้า  ธัมโม เม นาโถ

พระธรรม เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้า สังโฆ เม นาโถ  พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้า  ต่อมา เมื่อพระราชญาณวชิรชิโนภาส (เจ้าคุณต้น) นำมาใช้  ได้เพิ่มคำแปลว่า  “อันประเสริฐ” เป็นตัวขยายความของ ’ที่พึ่ง‘ ว่า   เป็นที่พึ่ง(อันประเสริฐ)ของข้าพเจ้า

เลยทำให้เข้าใจว่า ท่านน่าจะปรับคำแปลมาจาก บทว่า พุทโธ เม สรณัง วรัง  พระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง อันประเสริฐของข้าพเจ้า

ธัมโม เม สรณัง วรัง  พระธรรม เป็นที่พึ่ง อันประเสริฐ ของข้าพเจ้า  สังโฆ เม สรณัง วรัง  พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง อันประเสริฐ ของข้าพเจ้า  ซึ่ง ร. ๔ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในบทสวดทำวัตรเย็น

“พอสืบค้นให้ลึกลงไปก็พบว่า การสันนิษฐานว่ามีการเพิ่มคำแปลว่า อันประเสริฐ-วโร  เข้ามาขยาย  ที่พึ่ง – นาโถ น่าจะใช่  โดยเลียนแบบ สรณัง วรัง”

@ แต่ที่ไม่ใช่ คือ พุทโธ เม นาโถฯ มีเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ดังหลักฐานที่พบในคัมภีร์บาลีประเภทปกรณ์วิเสสชั้นอรรถกถา ซึ่งแต่งบรรยายเกี่ยวกับ  •พระพุทธเจ้าในอดีต   •พระอสีติมหาสาวก ๘๐ รูป•  •พระพุทธเจ้าในอนาคต ๑๐ พระองค์ 

โดยตอนต่อจากพระพุทธเจ้าในอนาคต ๑๐ พระองค์ หน้า ๑๓   มีที่ผู้แต่งระบุว่า  •พุทโธ เม นาโถ   พระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้า  ธัมโม เม นาโถ  พระธรรม เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้า  สังโฆ เม นาโถ พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้า พุทโธ อุปปันโน พระพุทธเจ้า อุบัติแล้ว •ธัมโม อุปปันโน พระธรรม อุบัติแล้ว  •สังโฆ อุปปันโน พระสงฆ์ อุบัติแล้ว

คัมภีร์ปกรณ์วิเสสนี้  (น่าจะ)แต่งขึ้นในลังกาหลัง พ.ศ. ๑๐๐๐  แต่มาพบในเมืองไทยว่า มีการจัดพิมพ์รวมไว้ ในชุดประชุมหนังสือเก่า ภาคที่ ๑   เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙  (๑๐๘ ปีมาแล้ว) ในงานพระศพ พระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธร

ปัจจุบันเก็บรักษาไว้อยู่ในหอพระสมุดวชิรญาณ (ตึกแดงตรงข้ามท้องสนามหลวง) จึงเป็นไปได้ ที่พระราชญาณวชิรชิโนภาส (จ้าคุณต้น) หรือพระอาจารย์ของท่าน อาจจะได้หรือได้เค้ามาจากคัมภีร์นั้นแล้วนำมาใช้ เนื่องจากมาพบต่อว่า  หลวงพ่อลี วัดอโศการาม  พระกรรมฐานร่วมรุ่นหลวงปู่มั่นและหลวงปู่เสาร์ก็เคยใช้มาแล้วและแปลขยายความว่า

พุทโธ เม นาโถ  พระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้าที่ใจ  ธัมโม เม นาโถ  พระธรรม เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้าที่ใจ

สังโฆ เม นาโถ พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ของข้าพเจ้าที่ใจ  ผมคิดเล่น ๆ ว่า บางที คำบริกรรม พุทโธ ที่ใช้กันในกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น  อาจมาจาก พุทโธ เม นาโถ นี้ก็ได้นะ…ฝากสืบค้นกันต่อ

@ ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า บทถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง พุทโธ เม นาโถ ฯ ที่เจ้าคุณต้นใช้ในคำสอนชุดธรรมนาวา“วัง”

๑)ไม่ใช่เป็นคำเถื่อน ๒) มีคัมภีร์บาลีชั้นอรรถกถารองรับอยู่ ซึ่งคัมภีร์นี้มีอายุมายาวนานนับพันปี ๓) พระกรรมฐานสายพุทโธ อย่างหลวงพ่อลีก็เคยใช้มาแล้ว และ ๔) คำที่พบในคัมภีร์บาลีอย่างที่กล่าวมา พบว่ามาพิมพ์เป็นเล่มสมุดในเมืองไทยเรา เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๙ (นับถึงปัจจุบันได้ ๑๐๘ ปีมาแล้ว) แล้วนำมาใช้จนโด่งดังอย่างเป็นทางการในรัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นมา

@ ตั้งใจทำเรื่องนี้ให้ชัดแจ้ง

เพื่อให้ได้องค์ความรู้ที่จะเกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย เชื่อว่าจะเป็นกุศลมหาศาลแก่สังคมพุทธบ้านเรา

หากสิ่งที่ผมตั้งใจทำด้วยกุศลเจตนาสามารถช่วยยุติวิวาทะได้

@ สาธุ ปวัฑฒตุ ราชทินนา ธัมมนาวา   สาธุ ขอธรรมนาวา“วัง” จงเจริญยิ่งขึ้น

Leave a Reply