“พระปีนเสา” มาแล้ว!! ฝาก “บิ๊กเต่า” ตรวจสอบเบื้องหลัง “สีกาก๊อล์ฟ” ทำเป็นขบวนการหรือไม่!!

วันที่ 11 กรกฏาคม 2568 พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธาเสาวภาคย์โชติรส หรือ “พระปีนเสา” ได้ทำหนังสือถือในนามประธานภาคีเครือข่ายองค์กรพลังชาวพุทธ ถึงรองผู้บัญชาการสอนสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านและเป็นธรรม ในกรณีข่าว “สีกา ก.” กับพระสงฆ์มหาเถระ ดังนี้

ด้วยปรากฏเป็นกระแสข่าวในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กรณีหญิงรายหนึ่ง ซึ่งสื่อเรียกขานว่า “สีกา ก.” มีพฤติกรรมเชื่อมโยงกับพระภิกษุและพระเถระหลายรูปในลักษณะไม่เหมาะสม ทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อมูลและหลักฐานในลักษณะล่อแหลมต่อศีลธรรม และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์ ไทยและความศรัทธาในพระพุทธศาสนาโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ

อาตมภาพ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธาเสาวภาคย์โชติรส ใคร่ขอแถลงข้อห่วงกังวล และขอเสนอแนะในประเด็นที่ควรได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

1. ลักษณะการกระทำของหญิงรายดังกล่าว อาจมิใช่เหตุเฉพาะบุคคลหรือเป็นการกระทำโดยบังเอิญ หากแต่มีพฤติการณ์ที่เป็นระบบ มีการติดต่อกับพระภิกษุมหาเถระหลายรูปในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และมีการเผยแพร่ข้อมูลอย่างมีเป้าหมาย ตรงกับช่วงเวลา “ก่อนเข้าพรรษา” ซึ่งเป็นระยะเวลาสำคัญของพระพุทธศาสนา

2. ควรมีการตรวจสอบว่า มีการวางแผนล่วงหน้า หรือมีผู้ร่วมกระทำการ หรืออยู่เบื้องหลังการจัดทำข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ และพึงตรวจสอบว่ามีการใช้วิธีการที่ละเมิดต่อพระภิกษุมหาเถระ เช่น การล่อลวง การวางยา หรือการบันทึกภาพโดยไม่สมัครใจหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้พระภิกษุทั้งหลาย ที่ประพฤติดีต้องตกเป็นเหยื่อของการกระทำโดยมิชอบ

3. กรณีดังกล่าวมีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงของสถาบันศาสนา และอาจเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติในเชิงวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ อันอาจเป็นผลจากการบ่อนทำลายศรัทธาของประชาชนต่อพระพุทธศาสนา และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของสังคมในระยะยาว

ในนามของพระภิกษุผู้ดำรงธรรม อาตมภาพ ขอเรียกร้องและเสนอแนะแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:

1. ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในประเด็นที่กล่าวมาอย่างรอบด้าน รอบคอบ และปราศจากอคติ โดยพึงตรวจสอบทั้งพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้อง และเบื้องหลังของการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นระบบ

2. ขอให้สื่อมวลชนใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข่าวสาร โดยควรยึดมั่นในหลักจริยธรรมสื่อ และไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่มีข้อยุติ อันอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาโดยรวม

3. ขอให้พุทธบริษัททั้งหลายใช้ปัญญาและสติในการรับรู้ข่าวสาร และอย่าด่วนสรุปหรือตัดสินผู้ใดโดยปราศจากข้อเท็จจริงและการสอบสวนที่เป็นธรรม

ทั้งนี้อาตมภาพ ไม่มีเจตนาที่จะเข้าข้างผู้ใด หากแต่ขอให้ความเป็นธรรมได้เกิดแก่ทุกฝ่าย และขอให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์แห่งพระธรรมวินัย และความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา

Leave a Reply