เครือข่ายชาวพุทธภาคเหนือ “พระสงฆ์-นักวิชาการ” ขอรัฐบาลยกเลิก “ศูนย์ทำนุทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา” ของตำรวจ พร้อมให้เร่งรัด พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพุทธศาสนาเข้าสภาฯ

วันที่ 23 สิงหาคม 2568 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ห้องประชุมศรีปริยัติยานุรักษ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ มีการสานเสวนา “ภัยคุกคามพระพุทธศาสนา” จัดโดยความร่วมมือของเครือข่ายองค์กรชาวพุทธภาคเหนือ และเครือข่ายสถานะบุคคล 48 องค์กร ประกอบด้วย พระสงฆ์ผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม พระสงฆ์นักพัฒนาชุมชนภาคเหนือตอนบน(คพชน.) และ คณะนักวิชาการ ที่ประชุมได้มีมติ ยื่นหนังสือถึง นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการปฏิบัติการตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 222/2568 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความหวาดระแวงสงสัยในการดำเนินการดังกล่าวในหมู่ชาวพุทธ ที่เกรงว่าจะเป็นการเอื้อให้เกิดการทุจริตโดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลจากการประชุมหารือดังกล่าว ระบุว่า

เครือข่ายองค์กรชาวพุทธภาคเหนือ ซึ่งมีรายชื่อท้ายเอกสาร ได้ร่วมประชุมหารือเกี่ยวสถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศที่มีความพยายามจากภาครัฐในการป้องกัน ปราบปราม แก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความมั่นคงในพระพุทธศาสนา โดยมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี คำสั่งการของสำนักงานพระพุทธศาสนา ตำรวจภูธร และสถานีตำรวจ ทั่วประเทศให้รีบเร่งดำเนินการอย่างขาดสติ ขาดการมีส่วนร่วมของพุทธบริษัท ซึ่งนับเป็นการดำเนินการแต่ฝ่ายเดียวโดยไม่สนใจที่จะรับฟังความคิดเห็นจากพุทธบริษัท ก่อให้เกิดความหวาดระแวงสงสัยในการดำเนินการดังกล่าวในหมู่ชาวพุทธ ที่เกรงว่าจะเป็นการเอื้อให้เกิดการทุจริตโดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีการรีดเอาทรัพย์จากวัด และพระภิกษุสามเณร อย่างไม่ตั้งใจ ตลอดจนส่งแรงกระเพื่อมให้เกิดความสั่นคลอนในศรัทธาในพระพุทธศาสนาขึ้นในประเทศไทย

โดยกระบวนการดังกล่าวได้กระทำแบบสุมไฟไล่ล้อมปรามโดยที่ยังไม่ปรากฎความผิด และควรดำเนินการด้วยกระบวนการทางกฎหมายให้สิ้นกระแสความก่อนตัดสินความ เครือข่ายองค์กรชาวพุทธภาคเหนือ มีข้อเสนอต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อดำเนินการ ดังนี้

1.ประสานสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อยกเลิก “ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย” โดยให้ใช้ช่องทางการร้องเรียนปกติที่มีอยู่แล้ว เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งและการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของพระสงฆ์ ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลจากการร้องเรียนควรมีการลงนามรับรองพร้อมแนบเอกสาร หลักฐาน ความผิดแก่องค์พระภิกษุสงฆ์ และควรที่จะต้องนำความจากการร้องเรียน เข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยต้นสังกัดก่อนดำเนินการต่อไป ไม่ใช่ใช้กระบวนการพิพากษาโดยระบบอุบาทว์ใหม่ เช่นในปัจจุบันที่ใช้ตำรวจเรียกข้อมูลและประจานออกทางสื่อต่าง ๆ ทั้งที่ยังไม่ทราบฐานความผิด อันจะส่งผลให้พระภิกษุจำต้องสละชีวิตบรรพชิตเพื่อรักษาพระพุทธศาสนา อันเป็นการไม่สมควรยิ่ง

2.เร่งรัดการออกแบบระบบบัญชีวัด/ข้อมูลวัด การแบ่งประเภทวัด (SML) ก่อนที่จะมีการตรวจสอบวัดในระยะต่อไป โดยให้พุทธบริษัทมีส่วนร่วม เพื่อสร้างความไว้วางใจในหมู่พุทธบริษัท และให้เกิดความชัดเจนโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยต้องมีการจัดอบรมชี้แจง ฝึกหัดการกรอกข้อมูลโดยหน่วยบังคับบัญชา มจร. มมร. และผู้เกี่ยวข้องกับทางวัด ให้เข้าใจชัดเจนตรงกันก่อนออกตรวจสอบ ใช้คารวะธรรมในกระบวนการตรวจสอบ

3.ให้พุทธบริษัทได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบ ตามคำสั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ที่กำกับดูแล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) ว่าด้วยการจัดระเบียบวัด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ และสอดคล้องกับพระธรรมวินัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

4.เร่งรัดให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งดำเนินการตามมติ มหาเถรสมาคม ที่ 731/2566 เรื่อง สรุปผลการประชุมกรณีปัญหาสถานะบุคคลของพระภิกษุสามเณร

5. ให้รัฐบาลเร่งรัดการเสนอ พ.ร.บ. อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เข้าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นหลักประกันในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 67 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 “รัฐต้องอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา…” เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน และกรณีที่ท่านเคยมีบัญชาที่จะแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ก็ขอให้ท่านได้ให้ พุทธบริษัท องค์กร หน่วยงานได้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่รอบด้านและสิ้นกระบวนความ ก่อนเข้าสู่กระบวนการแก้ไขดังกล่าว อันจะนำไปสู่การ แก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความมั่นคงในพระพุทธศาสนาอย่างเป็นธรรม มั่นคงและยั่งยืนสืบต่อไป

เครือข่ายองค์กรชาวพุทธภาคเหนือ
สมาพันธ์ชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่
มูลนิธิโพธิยาลัย จ.เชียงใหม่
เครือข่ายศูนย์การเรียนโพธิยาลัย
เครือข่ายสถานะบุคคล 48 องค์กร
มูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนวัดโป่งคำ จ.น่าน
ศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน ตำบลพระสิงห์ จ.เชียงใหม่
ศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน ตำบลป่าเมี่ยง จ.เชียงใหม่
เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาชุมชนภาคเหนือตอนบน (คพชน.)
เครือข่ายโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ภาคเหนือ
สมาพันธ์ครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แห่งประเทศไทย

Leave a Reply