อดีตผู้ว่า สตง. ร่อนหนังสือถึงเลขาธิการ ครม.กำหนดคุณสมบัติ ผอ.สำนักพุทธ วันที่ 18 เมษายน 2565 จากกรณีที่ นายสิปบวรแก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นำเอากระทู้ของนายกรัฐมนตรีมาตอบหนังสือของ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งผิดต่อประมวลจริยธรรมข้าราชการ พลเรือน พ.ศ. 2564 นายพิศิษฐ์ ได้ทำหนังสือถึงนายสิปบวร อีกครั้งโดยชี้ให้เห็นว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้เกิดปัญหากับวงการคณะสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งโอนย้ายมาจากหน่วยงานอื่น แล้วไม่เข้าใจงานของคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นงานเฉพาะด้านที่มีความละเอียดอ่อน จะเห็นได้จากกรณีการนำกระทู้ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการตอบกระทู้ทางการเมืองมาตอบหนังสือทางราชการ สะท้อนให้เห็นความไม่ประสีประสาทางราชการ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เห็นปัญหาของคณะสงฆ์มากมาย อันเกิดจากสำนักพุทธ ฯ โดยเฉพาะการกล่าวหาพระผู้ใหญ่ในหลายกรณี หนังสือของอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินฉบับดังกล่าว ยังได้เสนอแนะคุณสมบัติผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องเป็นมหาเปรียญ 6 ประโยคขึ้นไป และต้องได้รับความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคมก่อน จะได้เข้าใจงานของคณะคณะสงฆ์อย่างถูกต้อง คุณสมบัติดังกล่าวสามารถกำหนดได้ เพราะเป็นข้าราชการที่ทำงานเฉพาะด้าน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนที่ไม่เข้าใจงานคณะสงฆ์ เข้ามามีอำนาจหน้าที่สำคัญทางศาสนา ทำให้เกิดความเสียหาวงการพระพุทธศาสนา ดังเช่นที่ผ่านมา โดยนายพิศิษฐ์ ได้ระบุในหนังสือดังกล่าวว่า ขอเรียนให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับทราบว่า การตอบหนังสือถึงข้าพเจ้าดังกล่าวที่อ้างถึงนั้น เป็นการตอบหนังสือในลักษณะเบี่ยงเบนประเด็นที่จงใจจะไม่กล่าวถึงสาระสำคัญ อีกทั้งยังขาดทักษะ ตลอดจนความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติราชการของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอันเป็นเหตุที่ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องของการปฏิบัติราชการในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ปรากฏชัดเจนนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 เป็นต้นมาดังต่อไปนี้ 1) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขาดความรอบรู้อย่างชัดเจนในกิจการพระพุทธศาสนาและการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่รู้หน้าที่ของตนที่จะต้องอุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา โดยต้องยึดหลักพระธรรมวินัยของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด แต่พฤติการณ์ที่ปรากฏนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 เป็นต้นมา หน่วยงานราชการแห่งนี้กลับกลายเป็นหน่วยงานที่กล่าวหาพระเถระตามพระอารามหลวงต่าง ๆ อย่างมีวาระซ่อนเร้นเต็มไปด้วยอคติส่วนตน ดังเช่นกรณีที่ไปกล่าวหาพระเถระชั้นผู้ใหญ่ตามพระอารามหลวงต่างๆ ที่แฝงไว้ด้วยความมีเลศนัย โดยมิได้มีการหารือเจ้าคณะผู้ปกครองให้สามารถดำเนินการตามขั้นตอนของพระธรรมวินัยอย่างรอบคอบถี่ถ้วนให้เป็นที่ยุติเสียก่อน แล้วจึงจะเข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน การจงใจข้ามขั้นตอนในส่วนนี้ จึงเป็นการส่อแสดงถึงความมีวาระซ่อนเร้นบนความมีอคติส่วนตน ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งนี้จะต้องไม่ปฏิบัติเยี่ยงนี้ 2) การกล่าวอ้างถึงการตอบกระทู้ถามของนายกรัฐมนตรีที่ตอบกระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วนำมาใช้เป็นการตอบในหนังสือที่ข้าพเจ้าได้ถามไปในทางราชการนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทราบบ้างหรือไม่ว่า การตอบกระทู้ถามเป็นเรื่องทางการเมืองในวงงานของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนเรื่องที่ข้าพเจ้าได้ถามไปนั้น เป็นเรื่องที่ได้ถามไปในทางราชการ จึงไม่สมควรที่จะนำเรื่องทางการเมืองมาใช้เป็นข้ออ้างในการตอบหนังสือของข้าพเจ้า พฤติการณ์แบบนี้จึงเป็นการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนในข้อ 2 (2) ที่ได้กำหนดไว้ในวรรคท้ายของข้อนี้ว่า “รับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความพร้อมรับการตรวจสอบและรับผิด มีจิตสำนึกที่ดี โดยคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” 3) การปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ไม่รอบรู้ในหน้าที่ของตน ทั้งที่มีการกำหนดไว้แล้วตามระเบียบการบริหารราชการและยังไม่ประสีประสากับโบราณราชประเพณีในด้านการพระพุทธศาสนา จึงเป็นผลทำให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในปัจจุบันถูกครอบงำจากผู้มีอำนาจแฝงนอกระบบราชการเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป จนทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายเกิดขึ้นในหมู่คณะผู้ปกครองสงฆ์หลายระดับดังปรากฏเหตุการณ์ที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากหลายๆจังหวัดเมื่อไม่นานมานี้ วงการคณะสงฆ์จึงเกิดมีคำถามว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร 4) ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเคยทราบมาก่อนหรือไม่ว่า คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้มีประกาศประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนที่ลงนามโดยศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.พ. เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 และได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 จนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ข้อเท็จจริงปรากฏว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งที่มีการปฏิบัติราชการฝ่าฝืนต่อข้อกำหนดในประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนดังกล่าวในหลายๆ ข้ออย่างต่อเนื่องตลอดมา ประกอบด้วย ข้อ 2 วรรคท้ายที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว ข้อ 3 วรรคท้ายที่ได้กำหนดว่า “…ใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติหน้าที่โดยปราศจากอคติ และไม่ยอมกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมเพียงเพื่อรักษาประโยชน์หรือสถานภาพของตนเอง” ข้อ 6 ที่กำหนดไว้ว่า “ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติ และไม่เลือกปฏิบัติโดยการใช้ความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว…” และข้อ 7 กำหนดว่า “.ไม่อ้างหรือใช้อำนาจโดยปราศจากเหตุผล…” และเมื่อมีการฝ่าฝืนอยู่เนืองๆ โดย ไม่นำพาต่อประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนอาจเป็นเหตุให้มีผู้ร้องให้สอบสวนเอาความผิดทางวินัยข้าราชการและ/หรืออาจเลยไปถึงการขอให้ดำเนินการเอาความผิดที่เข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 อีกทางหนึ่งด้วย 5 ) ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า นับตั้งแต่มีการจัดตั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขึ้นมาทำหน้าที่แทนกรมการศาสนา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการแต่เดิม ปรากฏว่า ได้สร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นในหมู่คณะสงฆ์จนทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเสื่อมศรัทธา เหตุเพราะมีปัจจัยหลักจากการที่ผู้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมิได้ปฏิบัติราชการสนองตอบต่อเจตนารมณ์ในการตั้งส่วนงานราชการแห่งนี้ ดังนั้นในฐานะที่ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการมหาเถรสมาคมตามที่กฎหมายกำหนดอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรีบแก้ไขข้อบกพร่องประการสำคัญนี้อย่างเร่งด่วน โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดังนี้ 5.1 เป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างเป็นที่ประจักษ์ปราศจากข้อสงสัย 5.2 เป็นผู้ที่เคยผ่านการบวชเรียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 พรรษา และผ่านการสอบเปรียญธรรมไม่น้อยกว่า 6 ประโยค 5.3 เป็นผู้ที่มหาเถรสมาคมมีมติให้ความเห็นชอบ นอกจากนั้น นายพิศิษฐ์ ยังได้ทำหนังสือถึง นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีปฏิบัติการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ นายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีประจำสำนนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อีกด้วย Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author ฉายาพระสงฆ์ประจำปี’65 อุทัย มณี ธ.ค. 24, 2022 การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี หรือ การตั้งฉายานักการเมืองประจำรัฐสภาหรือแม้กระทั้งวงการ… “เจ้าคณะภาค 12” ลงตัวแล้ว..หนตะวันออกเตรียมมอบตราตั้งเจ้าคณะภาค อุทัย มณี มิ.ย. 10, 2021 วันที่ 10 มิ.ย.64 หลังจากสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก… เจ้าคณะจังหวัดพะเยา ตั้งปธ.ภาคียุวสงฆ์ไทย เป็นเจ้าอาวาสวัดสันกู่แก้วมงคล อุทัย มณี ต.ค. 05, 2021 วันอังคารที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผู้สื่อข่าวรายว่า พระราชปริยัติ… ธรรมทูตคฤหัสถ์วิถีพุทธ : นวัตกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนายุค Disruptions อุทัย มณี ต.ค. 02, 2019 ธรรมทูตคฤหัสถ์วิถีพุทธ : นวัตกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนายุค… ทีม Change for Good มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ศึกษาข้อมูลเชิงลึกร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) อุทัย มณี ก.ค. 10, 2022 วันที่ 10 ก.ค. 65 ที่พื้นที่ CLM ดอยอินทรีย์ แม่แบบพัฒนาสู่เขตพัฒนาวิถีเศรษฐกิจพอเพียง… หลวงพ่อสมชาย วัดปริวาสมอบข้าวสาร 500 ถุง เข้าโรงครัว มจร เยียวยาผลกระทบวิกฤติโควิด -19 อุทัย มณี ม.ค. 09, 2021 วันนี้ (9 ม.ค.63) พระราชพัฒนากร (สมชาย ฉนฺทสาโร) เจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม… ใต้บึ๊มรายวัน ฝีมือ BRN.?! อุทัย มณี ม.ค. 09, 2019 วันนี้ คุณวาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร รายงานว่า … ตรุษจีนไหว้! พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ เสริมมงคลวัดไผ่ล้อม อุทัย มณี ก.พ. 04, 2019 ตรุษจีนไหว้พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือไม้ตะเคียนใหญ่ที่สุดในโลก-ทำบุญบูชาองค์ไฉ่ซิงเอี๊ย… มหาวิทยาลัยมหามกุฎฯแบบอย่าง“มหาวิทยาลัยสงฆ์พื้นที่สีเขียว” อุทัย มณี เม.ย. 08, 2020 ช่วงบ่ายของวันหนึ่ง ท่ามกลางอากาศช่วงเดือนเมษายนที่ร้อนอบอ้าว… Related Articles From the same category “ปลัด มท.” เดินหน้าขับเคลื่อนอำเภอนำร่องแก้จนตามแนวพอเพียง มอบทีมที่ปรึกษาติดตามงานอำเภอพานเชียงราย-แม่ใจพะเยา ปลัด มท. เดินหน้าขับเคลื่อนอำเภอนำร่องบำบัดทุกข์ บำรุงสุข… เช็ครายชื่อว่าที่ ส.ว. ก่อนส่ง คสช.เคาะเหลือ 50 คน วันที่ 27 ธ.ค. ที่เมืองทองธานี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา… แนะการศึกษาคณะสงฆ์ศตวรรษที่ 21 ด้วย ‘3R-7C’ใช้ ‘Big Data-AI’เสริมเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันที่ 8 ก.ย.2562 พระสมุห์สมบัตร เทวธมฺโม นิสิตปริญญาเอก สาขาการพัฒนาสังคม… “กรรมการมหาเถร”ฝ่ายธรรมยุต เยี่ยม คณะสงฆ์กาฬสินธุ์ เปรย “ขอให้ปล่อยวางยอมรับมติ” วันที่ 19 ม.ค. 65 ผู้ใช้เฟชบุ๊คชื่อว่า “Sophonthamudom” หรือ พระครูโสภณธรรมอุดม… ในหลวงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญชาติไทยเป็นกรณีพิเศษแด่..พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ…
Leave a Reply