วันที่ 26 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ อาคารวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระพรหมบัณฑิต อุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานในพิธี “วันกตัญญู” รำลึกถึงคุณูปการผู้เกษียณอายุการทำงานประจำปีพุทธศักราช 2568 โดยมี พระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระเทพวัชรสารบัณฑิต รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ดร.สุรพล สุยะพรหม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยผู้เกษียนร่วมพิธี

พระพรหมบัณฑิต กล่าวตอนหนึ่งว่า ขออนุโมทนาต่อกุศลจิตทุกท่านที่ร่วมกันจัดงานวันนี้ เพื่อรำลึกถึง ต่อผู้อุปการคุณที่ร่วมกันสอนร่วมกันช่วยสร้างมหาวิทยาลัย วันนี้มีหลายท่านที่เป็นผู้ริ่เริ่มฝ่าฝันลำบากมาช่วยกันสร้างมหาวิทยาลัยที่เกษียนอายุราชการ ทั้ง พระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดี พระพรหมวัชรวิมลมุนี เจ้าคณะกทม.ในฐานะผอ.วิปัสสนา ดร.สุรพล สุยะพรม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป เป็นต้น ดื่มน้ำจากบ่อ ให้นึกถึงคนขุดบ่อ กินผลไม้ก็อย่าลืมคนปลูก หน้าที่ของลูกศิษย์คนรุ่นหลังอย่างน้อยใครบ้าง ตายไปอย่างน้อยมีรูปเป็นอนุสรณ์ หากมีชีวิตอยู่ก็ยกย่อง ดังวันนี้ ซึ่งหากพวกเราทำได้ในส่วนขอผู้เกษียน จะได้ดีใจ ปลื้มใจ ในสิ่งที่ลูกศิษย์ทำ วาระอย่างนี้ให้นึกถึงความดี ความสำเร็จ เมื่อนึกแล้วก็เกิดปีติโสมนัส

“มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ ได้ดังทุกวันนี้ เพราะทุกคนอุทิศแรงกายแรงใจขึ้นมา บัดนี้ได้เวลาให้รุ่นต่อไป ได้สืบสาน รักษา ต่อยอดต่อไป เดิม มหาจุฬา อาศัยอยู่ที่วัดมหาธาตุซึ่งเป็นนิติบุคคล เหมือนลูกอยู่กับพ่อแม่ มีอะไรพ่อแม่ก็ดูแลเรา ปกป้องเรา เป็นลักษณะคอมฟอร์ทโซน (Comfort zone) พอ มจร มีพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย พ.ศ.2540 เราก็ออกมา เพราะกฎหมายกำหนดออกให้ออกจาก Comfort zone มาอยู่ วังน้อย วิทยาเขตก็มีลักษณะนี้เหมือนกัน เป็นยุคก่อร่างสร้างตัว พอสร้างตัวได้พอสมควร คือสำเร็จแล้ว ก็มาเป็นยุคเสวยสุข ใคร ๆ ก็อยากเข้ามา มาร่วมเสวยสุข อันนี้พวกเราต้องจับมือหาทางป้องกัน เพื่อมิให้คู่แข็งมาทำลายเรา ๆ ต้องปกป้องคุ้มครองตนเอง ไม่อย่างนั่นมันก็จะถดถอย เราต้องจับมือกัน บางคนเกษียณอายุราชการแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทิ้งมหาวิทยาลัย เกษียณอายุราชการแต่ ไม่เกษียณการทำงาน ส่วนคนที่โค้ชให้นั่งขอบเวที ก็ต้องช่วยกันดูแลต่อไป ทำตามหน้าที่ที่เขาให้บทบาท ส่วนคนที่โค้ชเขาให้ลงสนาม ก็ทำตามเต็มที่ เล่นให้เขาเห็นว่าเรามีประโยชน์ มีคุณค่า ในส่วนของผู้บริหาร ก็ต้องดูแลตามสมควรแก่ฐานะยกย่องตาสมควร แบบนี้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็จะเด่นสง่าต่อไป..

ด้าน พระเทพวัชรสารบัณฑิต กล่าวว่า ปีนี้บุคลากรของ มจร มีอายุครบเกษียณการทำงานจำนวน 35 รูป/คน แบ่งเป็นบรรพชิต 15 รูป คฤหัสถ์ 21 คน “ในส่วนของบุคลากรหลายรูป หลายท่าน แม้เกษียณอายุราชการแล้ว แต่มหาวิทยาลัยเห็นว่ายังเป็นบุคคลที่มีศักยภาพความสามารถอยู่ ก็จ้างต่อให้เป็นอาจารย์ต่อไป ส่วนตำแหน่งฝ่ายบริหาร กฎหมาย กฎระเบียบไม่ได้จำกัดอายุ ก็บริหารต่อไปจนครบวาระ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือทำเนียมปฎิบัติที่พวกเราชาวมหาจุฬา ฯ ได้ยึดปฎิบัติและทำกันไว้..”


Leave a Reply