สภามจร ไฟเขียวอนุมัติตั้ง “วิทยาลัยสงฆ์ 3 แห่งรวด”

       เมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.61 ) ที่ประชุมสภากรรมการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา  ซึ่งมี พระธรรมปัญญาบดี นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธานประชุม ได้มีมติยกฐานะหน่วยวิทยบริการจัดตั้งเป็น “วิทยาลัยสงฆ์ 3 แห่งรวด” ซึ่งได้แก่ หนึ่ง หน่วยวิทยบริการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นเป็น “วิทยาลัยสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี สอง หน่วยวิทยบริการจังหวัดมหาสารคามขึ้นเป็น “วิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม” และ สาม หน่วยวิทยบริการจังหวัดระยอง ขึ้นเป็น “วิทยาลัยสงฆ์จังหวัดระยอง”

   สำหรับความเป็นมาของวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 3 แห่งมีความเป็นมาโดยย่อดังนี้

            ในปี พ.ศ.2546 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เสนอโครงการขยายห้องเรียนระดับปริญญาตรี หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศาสนา ต่อสภาวิชาการในคราวประชุมครั้งที่ 3/2546 เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2546 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเสนอให้สภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติ และในคราวประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 3/2546 เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2546 ที่ประชุมมีมติอนุมัติโครงการขยายห้องเรียนระดับปริญญาตรี หลักสูตรพุทธศาสตร์บัณฑิตสาขาวิชา ศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ไปที่วัดพัฒนาราม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้ชื่อว่า โครงการขยายห้องเรียนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช วัดพัฒนาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2546 เป็นต้นมา โดยมีนิสิตเข้าศึกษารุ่นแรก จำนวน 30 รูป

          ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2552 มีมติอนุมัติเปิดหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ วิชาเอกการบริหารรัฐกิจ (สำหรับบรรพชิตและคฤหัสถ์) คณะสังคมศาสตร์ ณ โครงการขยายห้องเรียน วิทยาเขตนครศรีธรรมราช วัดพัฒนาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

         พ.ศ. 2553  สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในการประชุมครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2553 มีมติอนุมัติเปิดหลักสูตรพุทธศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ (สำหรับบรรพชิตและคฤหัสถ์)คณะสังคมศาสตร์ ณ โครงการขยายห้องเรียนวิทยาเขตนครศรีธรรมราช วัดพัฒนาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

       และในการประชุมสภามจร เมื่อวานนี้ ที่ประชุมได้มีมติยกฐานะหน่วยวิทยบริการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นเป็น “วิทยาลัยสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี”

สำหรับวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม มีความเป็นมาโดยย่อดังนี้

         ในปี 2559 พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พร้อมคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น วัดอภิสิทธิ์ จ.มหาสารคาม ได้ยื่นเรื่องขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์โคกหนองรัก ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พื้นที่กว่า 50 ไร่   เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างหน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม

         ต่อมา นายโชคชัย เดชอมรธัญ ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ขณะนั้นได้อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์โคกหนองรัก ประกอบด้วย 1.ก่อสร้างอาคารเรียนอนุสรณ์ 150 ปี มหาสารคาม ของหน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม 2.รองรับการจัดตั้งเป็นวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคามในอนาคต 3.รองรับการผลิตบัณฑิต วิจัย บริการวิชาการแก่สังคมและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม

        โดยยกมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น วัดอภิสิทธิ์ จ.มหาสารคาม ขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์ จึงขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์โคกหนองรัก ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พื้นที่กว่า 50 ไร่ และทางราชการก็ให้ความร่วมมืออนุญาตให้ใช้ที่ดิน

          สำหรับจังหวัดมหาสารคาม มีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาอยู่หลายแห่ง และมีนักศึกษาจำนวนหลายหมื่นคน จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองตักกสิลา ห้วงเวลาที่ผ่านภาครัฐ เอกชน และประชาชน พยายามส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยวิทยบริการที่วัดอภิสิทธิ์มาโดยตลอด ด้วยการสนับสนุนงบประมาณ การบริจาคสร้างอาคาร และเข้าร่วมกิจกรรมของหน่วยวิทยบริการ

          ปัจจุบันหน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น วัดอภิสิทธิ์ จังหวัดมหาสารคาม มีพระนิสิตกำลังศึกษาอยู่ 300 รูป อาจารย์ 20 คน การยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์ คาดว่าจะมีนิสิตเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คน

          สำหรับตัวแทนจังหวัดมหาสารคามมีพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผวจ.มหาสารคาม นายสุทธิชัย อิงคยะกุล ผอ.พศจ.มหาสารคาม และคณะสงฆ์ในจังหวัดร่วมชี้แจง

  สำหรับวิทยาลัยสงฆ์จังหวัดระยอง  มีความเป็นมาโดยย่อดังนี้

           หน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจังหวัดระยอง  ได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยเมื่อพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2552 ให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดวิทยบริการคณะสังศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ วัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.ระยอง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นมา

           สำหรับในการประชุมครั้งนี้  มีพระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง เจ้าอาวาสวัดเนินพระ ,พระครูโสภิตปัญญากร เจ้าคณะอําเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่  (พระอารามหลวง), ดร.วิชัย ลํ้าสุทธิ อดีต ส.ส. จ.ระยอง และตัวแทนจังหวัดระยองมี นางศุภดี วิถีธรรมศักดิ์ วัฒนธรรม เข้าร่วมประชุม โดยตัวแทนจังหวัดได้ยืนยันความพร้อมการจัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์จังหวัดระยองต่อคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย ที่ประชุมคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยรับในหลักการตามเกณฑ์เพื่ออนุมัติเป็นวิทยาลัยสงฆ์จังหวัดระยอง เป็นแห่งที่ 21 ต่อไป

////////////////////////////////

Leave a Reply