สแกน..พรรคการเมือง DNA พุทธแท้

 ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 61 พรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่ในแวดวงการเมืองไทยและเป็นพรรคการเมืองที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองมีทั้งหมด 95 พรรคการเมือง

การเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในต้นปีที่จะถึงนี้มีพรรคเล็ก ๆ เกิดขึ้นมากมายและที่น่าสนใจนั่นก็คือ “พรรคการเมืองDNA พุทธแท้”

   พุทธแท้..ในที่นี้หมายถึง “พรรคการเมืองที่มีอดีตนักบวชและมหาเปรียญรวมทั้งนักวิชาการชาวพุทธเข้าไปมีส่วนร่วมทั้งในการก่อตั้งพรรคและมีส่วนร่วมในการบริหารพรรค และเคยเคลื่อนไหวเพื่อพุทธศาสนามาระดับหนึ่ง หรือมีแนวคิดที่ต้องการจะเข้ามากอบกู้พระพุทธศาสนาให้มั่นคงและยั่งยืนยิ่งขึ้นในพระพุทธศาสนาและทุกพรรคการเมืองล้วนมีสายใยเชื่อมโยงกับสถาบันสงฆ์ในมิติใดมิติหนึ่ง อันนี้ไม่เว้นแม้กระทั้งพรรคการเมืองสายสำนักสันติอโศก ซึ่งก็ถือว่าเป็นพุทธแท้ไม่แพ้พุทธสายสำนักอื่น ๆ..”

เท่าที่ติดตามตัวบุคคล เท่าที่สืบค้นได้ และเท่าที่สืบส่องอดีตมหาเปรียญ อดีตนักบวช และนักวิชาการสายพุทธศาสนาเข้าไปร่วมพรรคด้วย มี  4 พรรคการเมือง คือ

 อันดับหนึ่ง พรรคแผ่นดินธรรม  มี นายกรณ์ มีดี เป็นหัวหน้าพรรค นาย พลากร เทศนำ เป็นเลขาธิการพรรค สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ใน  จ.ปทุมธานี  พรรคนี้ริเริ่มมาจากก่อตัวมาจากสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศ ซึ่งเดิมมี รท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ เป็นประธาน และมีนายกรณ์ มีดี  นั่นเอง เป็นเลขาธิการในการขับเคลื่อน ปลุกให้ชาวพุทธประเภท “ฝันสวย” ยอมรับในโลกของความเป็นจริงว่า พระพุทธศาสนา และพระสงฆ์กำลังมีภัย ซึ่งภัยนั้นไม่ว่าจะเกิดจากตนเองหรือภัยที่มาจากภัยนอกอะไรก็ตาม และภัยที่กลุ่มคนกลุ่มนี้ต้องการให้สังคมพุทธรู้ว่าที่สุดนั่นคือ “ภัยต่างศาสนา” 

การดำเนินการของสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยเดินสายไปทั่วประเทศ ที่ไหนมีประชุมพระสังฆาธิการ มักจะเห็นตัวแทนคนของสมาพันธ์ ฯบนเวทีเสมอ ๆ  จนเมื่อ คสช.ปลดล๊อคทางการเมือง สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่รวมตัวอดีตมหาเปรียญไว้มากที่สุด เข้มแข็งและมีสายพุทธเลือกเข้าข้นที่สุด ก็แปรสภาพเป็นพรรคการเมืองในนาม “พรรคแผ่นดินธรรม”

          อันดับสอง  พรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน  มี นายประมวล พิมพ์เสน เป็นหัวหน้าพรรค  นายรักสยาม นามานุภาพ เป็นเลขาธิการพรรค  ในพรรคนี้มีสมาชิกสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยคหลายคนเข้าไปร่วมด้วยอาทิ นายเอกภพ เหลาะลาภะ    สำหรับ นายประมวล  พิมพ์เสน มีจากอาชีพครูและเข้ามามีบทบาทด้านเคลื่อนไหวให้บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และต่อต้านการสร้างมัสยิดในพื้นที่  ส่วนนายรักสยาม นามานุภาพ เปรียญธรรม 9 ประโยค เป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในการปกป้องพระพุทธศาสนาและขับเคลื่อนช่วยเหลือคณะสงฆ์ และในการช่วยเหลือคณะสงฆ์มาก ใกล้ชิดจนเกิดไป จนมีข่าวซุบซิบนินทา “พระผู้ใหญ่ฝั่งธน” รูปหนึ่งเกิดความไม่พอใจขึ้น  แต่ก็ถือว่าเป็น  “ DNA พุทธแท้คนหนึ่ง..”

       อันดับสาม พรรคประชาภิวัฒน์  มีนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ อดีต ส.ว. นครสวรรค์ เป็นหัวหน้าพรรค   สมเกียรติเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครสวรรค์ และเขา เคยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เรียกร้องให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย    นายสมเกียรติ ศรลัมพ์  มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวัดพระธรรมกาย ภาพเขาปรากฎในการกิจกรรมวัดพระธรรมกาย ผ่านสื่อหลายครั้ง อาทิ ในยุคที่เขาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ไปปรากฏตัวร่วมโปรยกลีบดอกกุหลาบ เมื่อ 6 เมษายน 2555 ในวันประวัติศาสตร์ อัญเชิญหลวงปู่ สด จันทสโร หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ กลับบ้านคือที่วัดปากน้ำ     และ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2555  สมเกียรติในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการเดินธุดงค์ธรรมชัย เส้นทางมหาปูชะนียาจารย์ (สด จนฺทสโร) ปีที่ 2 ถวายเป็นพุทธบูชา สืบสานวัฒนธรรมชาวพุทธ ฟื้นฟูจิตใจ สร้างบุญใหญ่ให้แผ่นดิน ในระหว่างวันที่ 2-27 มกราคม 2556 อีกด้วย  พรรคนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า “เป็นเครือข่ายวัดพระธรรมกาย” 

พรรคประชาภิวัฒน์  นี้มีนางนันทนา สงฆ์ประชา อดีตส.ส.ชัยนาท เป็นเลขาธิการพรรค  แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าพรรคนี้ผู้ยื่นขอจดทะเบียนกับกกต.คือ พลตรี ไชยนาจ ญาติฉิมพลี  อดีตนักพรต อดีตอนุศาสนาจารย์ อดีตนายกเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีสายสัมพันธ์กันดีกับคณะสงฆ์ทั้งในฐานะนักบวชเก่าเปรียญธรรม 5 ประโยค จบพุทธศาสนบัณฑิตจาก มจร และนายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย  พรรคประชาภิวัฒน์ จึงเป็น “พรรค DNA พุทธแท้อีกพรรคหนึ่ง”

         อันดับสี่ พรรคเพื่อฟ้าดิน  พรรค DNA พุทธแท้อันดับสี่ หัวหน้าพรค คือางมิ่งหมาย มุ่งมาจน น.ส.หนึ่งฟ้า นาวาบุญนิยม เป็นเลขาธิการพรรค  พรรคเพื่อฟ้าดิน เดิมก่อตั้งโดย ร้อยตำรวจเอก ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นายนิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เป็นกรรมการบริหารพรรคประชาชาติ ) ซึ่งจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในชื่อ พรรคสหกรณ์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2543 แต่ ร.ต.อ.นิติภูมิ ต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงโอนการดำเนินการให้กลุ่มสันติอโศกดำเนินการต่อ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรรคเพื่อฟ้าดิน อย่างในปัจจุบัน

พรรคเพื่อฟ้าดิน มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของสันติอโศก มี “สมณะโพธิรักษ์” เป็นแกนนำ  มีนโยบายพัฒนาประชาธิปไตยด้วยการเมืองอริยะแบบฉบับของ สมณะโพธิรักษ์ที่มุ่งการเมืองบุญนิยม มุ่งสร้างคน ให้มีคุณธรรมเป็นรากฐานประชาธิปไตย พัฒนาชุมชนไทยให้มีศีล ปลอดอบายมุข พึ่งตนเองได้ ไม่แก่งแย่งแสวงอำนาจ และประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งเป็นนวัตกรรม อันหนึ่งของสังคม และก็ถือว่าเป็นพุทธแท้ “มีสายDNA พุทธแท้ แต่ค่อนข้างสุดโต่ง เพราะไปร่วมเคลื่อนไหวกับการเมืองภาคประชาชนมาต่อเนื่อง..

สำหรับศาสนิกชนในประเทศไทยโดยการสำรวจศาสนิกชน อายุ 13 ปีขึ้นไป โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2557  พุทธศาสนิกชน 25,926,481  คน คิดเป็น  94.6%  ศาสนิกอิสลาม  2,389,757 คน คิดเป็น  4.2%   ศาสนิกชนคริสต์มี  617,492    คิดเป็น 1.1%    ปัจจุบันมีประชากรไทยทั้งหมด 66,188,503 สำรวจโดยการกรมการปกครอง 2560) ผู้มิสิทธิเลือกตั้งอายุ 18 ปีขึ้นไปประมาณ 51 ล้านคน

พรรคการเมือง DNA พุทธแท้ชาวพุทธในประเทศไทยคงต้องติดตามว่าใครจะเข้าวินไปนั่งในสภาขับเคลื่อนเพื่อพุทธศาสนาบ้าง..

Leave a Reply