วันนี้ (24 ธ.ค.61) คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นัดประชุมด่วนที่สุดเป็นกรณีพิเศษ เพื่อจัดเตรียมร่างกฎหมายต่าง ๆ เข้าสู่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยในวาระการประชุมในคราวนี้มีหลายวาระด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั่นคือ เตรียมพิจารณารางพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเสนอคือ ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ….
สำหรับร่างพระปริยัติธรรม ถือว่าเป็นความก้าวหน้าการปฎิรูปของคณะสงฆ์ด้านหนึ่งใน 6 ด้านที่มหาเถรสมาคมเห็นชอบให้มีการปฎิรูป โดยมีสาระสำคัญดังนี้
เรื่อง/สาระสำคัญ
1. วัตถุประสงค์
เพื่อให้การศึกษาและส่งเสริมวิชาการทางพระพุทธศาสนาให้เป็นไปโดยสอดคล้องกับโบราณราชประเพณีและมาตรฐานการจัดการศึกษาของชาติ รวมทั้งเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาความรู้ของคนในชาติให้มีการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต
2.กำหนดแผนการศึกษา
กำหนดให้การศึกษาพระปริยัติธรรมมี 3 แผนก ได้แก่
– แผนกบาลีสนามหลวง ศึกษาพระพุทธศาสนา ภาคภาษาบาลี
– แผนกธรรมสนามหลวง ศึกษาพระพุทธศาสนา ภาคภาษาไทย
– แผนกสามัญศึกษา ศึกษาพระพุทธศาสนาทั้งแผนกบาลีสนามหลวงและแผนกธรรมสนามหลวง ควบคู่กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ
3.การบริหารจัดการการศึกษาพระปริยัติธรรม
– ให้มีคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม ประกอบด้วยประธานกรรมการรูปหนึ่ง ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม มีอำนาจและหน้าที่ เช่น กำหนดนโยบายและแผนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม ควบคุม ดูแลและกำกับการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย โบราณราชประเพณี หรือมาตรฐานการศึกษาของชาติ และกำหนดมาตรฐานการศึกษาพระปริยัติธรรมและการประกันคุณภาพการศึกษา
– ให้ พศ. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการฯ จัดทำแผนยุทธศาสตร์การสร้างเสริม สนับสนุน พัฒนาการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมและแผนงบประมาณเพื่อการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมเสนอต่อมหาเถรสมาคมพิจารณาให้ความเห็นชอบ
– ให้ พศ. เป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน ประสานงานการศึกษาพระปริยัติธรรม และเป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการฯ
– ให้รัฐอุดหนุนงบประมาณสำหรับการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม ตามความเหมาะสมและความจำเป็น
– ให้วัดมีสิทธิจัดตั้งสถานศึกษาพระปริยัติธรรมได้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
4. การเทียบระดับการศึกษาพระปริยัติธรรมและกำหนดวิทยฐานะของผู้สำเร็จการศึกษาพระปริยัติธรรม มีดังนี้
4.1 การศึกษาพระปริยัติธรรมที่ได้จัดให้แก่สามเณรซึ่งเป็นเด็กตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ และมีพื้นความรู้ไม่ต่ำกว่าระดับประถมศึกษาปีที่หกหรือเทียบเท่า ซึ่งได้ศึกษาวิชาสามัญเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด โดยคำแนะนำของมหาเถรสมาคม
แผนก/เทียบเท่า
4.1.1 ศึกษาแผนกธรรมสนามหลวง ชั้นนักธรรมเอก
เทียบเป็นการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
4.1.2 ศึกษาแผนกบาลีสนามหลวง ชั้นเปรียญธรรมสามประโยค
เทียบเป็นการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
4.1.3 ศึกษาแผนกสามัญศึกษา
เทียบเป็นการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
4.2 ผู้เรียนที่พ้นการศึกษาภาคบังคับแล้ว
แผนก/วิทยฐานะ
4.2.1 สำเร็จการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมสนามหลวง ชั้นนักธรรมเอก
ให้มีวิทยฐานะระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
4.2.2 สำเร็จการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีสนามหลวง ชั้นเปรียญธรรมสามประโยค
ให้มีวิทยฐานะระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
4.2.3 สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและแผนกบาลีสนามหลวง ชั้นเปรียญธรรมเก้าประโยค
ให้มีวิทยฐานะระดับปริญญาตรี เรียกว่า “เปรียญธรรมเก้าประโยค” ใช้อักษรย่อว่า “ป.ธ.9”
4.2.4 สำเร็จการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีสนามหลวง ที่ได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
ให้มีวิทยฐานะระดับใด ๆ โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมและตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการการอุดมศึกษา
คณะสงฆ์คงจะต้องจับตาดูต่อไปว่า…ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม..ของสมาชิก สนช. จะมีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญอะไรบ้างหรือไม่ หรือ จะประกาศใช้ทันในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ต้องติดตามต่อไป..
*********************************
Leave a Reply