เมื่อวันอังคารที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปหอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ทรงเปิดการประชุมสัมมนาพระธรรมทูตภายในประเทศ โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า
“ในฐานะที่ผมได้รับภารธุระ ในงานพระธรรมทูตมานับแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบัน จึงขอใช้โอกาสนี้ ปรารภข้อคิดบางประการกับท่านทั้งหลายสักเล็กน้อย ในฐานะพระธรรมทูตรุ่นพี่พูดคุยกับพระธรรมทูตรุ่นน้อง..”
การเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นหน้าที่โดยตรงของพระภิกษุ ท่านทั้งหลายเมื่อได้อุปสมบทเข้ามาสู่พระศาสนานี้ จึงมีหน้าที่เผยแผ่พระธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ขจรขจายไป ด้วยน้ำใจกรุณาอย่างบริสุทธิ์ ไม่พึงมุ่งหวังลาภสักการะใดๆ แต่พึงมุ่งหมายเพื่อให้ธรรมะ เรืองรองขึ้นอย่างกว้างขวาง ให้เป็นแสงสว่างทางปัญญา ช่วยอนุเคราะห์เกื้อกูลชาวโลก
อย่างไรก็ตาม การช่วยกันหมุนกงล้อแห่งธรรม หรือที่เรียกว่า ‘ธรรมจักร’ ให้ขับเคลื่อนไปนั้น จำเป็นต้องอาศัยคุณสมบัติสำคัญ ๕ ประการ กล่าวคือ
๑. ธัมมัญญุตา ท่านต้องเป็นผู้รู้จักเหตุ คือ รู้หลักความจริง ต้องเป็นผู้รู้ธรรม ถ้าท่านเป็นพระธรรมทูต แต่ไม่รู้จักธรรมะอย่างถ่องแท้ ก็ทำงานให้สำเร็จสมตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับสมมติให้เป็นอยู่นี้ไม่ได้
๒. อัตถัญญุตา ท่านต้องเป็นผู้รู้จักผล คือ รู้ความหมาย รู้ประโยชน์ที่ประสงค์ ว่าธรรมะที่ท่านเผยแผ่นั้น มีความหมายอย่างไร และการทำหน้าที่ของท่านนั้นเพื่อประโยชน์อะไร
๓.มัตตัญญุตา ท่านต้องเป็นผู้รู้จักประมาณ คือ ความพอดี เช่น ภิกษุในพระพุทธศาสนา ย่อมรู้จักประมาณในการรับและบริโภคปัจจัยสี่
๔. กาลัญญุตา ท่านต้องเป็นผู้รู้จักกาลอันเหมาะสม รู้ระยะเวลาที่จะต้องใช้ในการประกอบกิจการงาน บริหารเวลาให้ถูกต้อง รู้ว่าเวลาใดควรทำ หรือควรพูดอะไร และอย่างไร และ
๕. ปริสัญญุตา ท่านต้องเป็นผู้รู้จักบริษัท คือ รู้จักชุมชน รู้กิริยาที่จะประพฤติต่อชุมชนนั้นๆ ว่า ชุมชนนี้เมื่อเข้าไปหา จะต้องทำกิริยาอย่างนี้ จะต้องพูดอย่างนี้ ชุมชนนี้ควรสงเคราะห์อย่างนี้ เป็นต้น
ถ้าพระธรรมทูตมีคุณสมบัติทั้ง ๕ ประการดังกล่าวมานี้ครบถ้วน ขอรับรองว่า ท่านจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ แล้วเป้าหมายที่พึงประสงค์ คือความดำรงคงมั่นแห่งพระสัทธรรม นำประโยชน์สุขมาสู่มหาชนทั้งหลาย ก็ย่อมบังเกิดขึ้นได้ ตลอดกาลนาน
นอกจากนี้สมเด็จพระสังฆราช ได้มอบตราตั้งแต่งตั้ง หัวหน้าพระธรรมทูตภายในประเทศ ซึ่งมีทั้งหมด ๙ สาย ดังนี้
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๑ …สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง (วัดพิชยญาติการาม) ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๑ (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี สมุทรสาคร)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๒…สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง พระธรรมปิฎก (ชวลิต อภิวฑฺฒโน ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี (วัดพระพุทธบาท สระบุรี) ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๒ (พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๓…สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ.๙) รก.เจ้าคณะภาค ๕ (วัดปากน้ำ) ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๓ (กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๔...สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) รก.เจ้าคณะภาค ๖ (วัดพระแก้ว เชียงราย) ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๔ (ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๕…สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก (วัดไตรมิตรวิทยาราม) ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๕ (อุดรธานี หนองคาย เลย สกลนคร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๖…สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง พระเทพวิสุทธิโมลี (พรหมา สปฺปญฺโญ ป.ธ.๙) รก.เจ้าคณะภาค ๑๐ (วัดจักรวรรดิราชาวาส) ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๖ (อุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร ศรีสะเกษ นครพนม อำนาจเจริญ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๗…สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) รก.เจ้าคณะภาค ๑๔-๑๕ (ธรรมยุต-วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม) ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๗ (ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๘…สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ให้ดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๘” (ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช)
พระบัญชาแต่งตั้ง’หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ๙...สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาแต่งตั้ง พระธรรมวิมลโมลี (พงศ์สรร อสิญาโณ ป.ธ.๙) รก.เจ้าคณะภาค ๑๖ (วัดไตรธรรมาราม สุราษฎร์ธานี) ให้ดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๙” (ภูเก็ต ตรัง กระบี่ พังงา ระนอง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)
/////////////////////////////
ขอบคุณภาพ /ข้อมูล : สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
: โพสต์นิวส์ โพสต์นิวส์
Leave a Reply