เจ้าอาวาสวัดดังอ่างทองหลังคลิปฉาวว่อนเน็ตขอลาออกจาก“ตำแหน่ง”

           วันนี้ (๑๐  ธ.ค๖๓ )  พระราชพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร พระอารามหลวง ได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ขอลาออกจากตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด สาเหตุคาดว่า ในสื่อโซเชียลแชร์ ได้แชร์ภาพคลิปความยาวประมาณ 45 วินาที เป็นภาพที่มีผู้แอบถ่ายบริเวณด้านหน้ากุฏิของพระชั้นผู้ใหญ่วัดหนึ่งในอำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง โดยในภาพเป็นภาพขณะที่พระภิกษุรูปนี้เปิดประตูออกมาดูซ้ายดูขวา เมื่อเห็นปลอดคนจึงให้หญิงสาวรูปร่างท้วมเดินออกมาจากกุฏิอย่างรีบร้อน ก่อนที่พระรูปดังกล่าวได้รีบปิดกุฏิใส่กุญแจทันที

            ซึ่งหลังจากคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ล่าสุดวันนี้พระราชพัฒนาภรณ์ ได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร และ รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง

       สำหรับพระราชพัฒนาภรณ์  มีนามเดิมว่า ณรงค์ อายุยง เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๕ ณ ตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

       อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ณ วัดมหานาม ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง โดยมี พระครูบวรวุฒิชัย วัดไชยภูมิ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิสุทธิชัยคุณ วัดมหานาม อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอดิศัยกิจจานุวัตร วัดไชยภูมิ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

       การศึกษา  นักธรรมชั้นเอก

        วัดไชโยวรวิหาร พระอารามหลวง เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท เดิมเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่ มีนามว่า วัดไชโย ครั้นเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตารามได้เลือกวัดนี้เป็นที่สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ตั้งอยู่กลางแจ้ง กล่าวว่าการก่อสร้างพระพุทธรูปนี้ใช้เวลานานเกือบ ๓ ปี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จึงเสร็จ แล้วสมเด็จพุฒาจารย์ได้ถวายวัดไชโยเป็นวัดหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเกษไชโย”

 

        ใน พ.ศ.๒๔๓๐ มีการปฏิสังขรณ์วัดเกษไชโยทั้งพระอาราม ทำให้พระพุทธรูปได้รับแรงกระเทือนจากการก่อสร้างพระวิหารก็พังทลายลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ทดแทนโดยโปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการเป็นแม่กองช่าง โดยรื้อองค์พระเดิมออกหมด วางรากฐานก่อสร้างใหม่ใช้โครงเหล็กรัดอิฐปูนไว้ภายในลดขนาดจากองค์เดิมลงพระพุทธรูปองค์นี้ได้รับพระราชทานนาม “พระมหาพุทธพิมพ์” ขนาดหน้าตักกว้าง ๘วา ๖ นิ้ว สูง ๑๑ วา ศอก ๗ นิ้ว และโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะวัดไชโยให้เป็นพระอารามหลวง นอกจากนี้ยังมีการก่อ พระวิหาร สร้างพระอุโบสถเป็นมุขลดยื่นออกมาทางด้านหน้า มีศาลาราย กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ หอระฆัง ศาลารายกลางวัด ศาลาท่าน้ำ รวมเวลาการปฏิสังขรณ์นานถึง ๘  ปี

        พระวิหาร มีความสูงใหญ่มากแห่งหนึ่ง รูปทรงแปลกตา ด้านนอกมีรูปทวารบาลลายรดน้ำ เป็นรูปเสี้ยวกวาง เสาหารด้านหน้า-หลังพระวิหารมีขนาดใหญ่โตมาก

        ภายในพระอุโบสถ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นปางสมาธิ ผนังทุกด้านมีภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นเรื่องพุทธประวัติ ภาพเหล่าทวยเทพที่วิจิตรงดงาม ยังอยู่ในสภาพที่ดี บานประตูแกะสลักอย่างประณีต

        สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ ได้แก่ พระมหาพุทธพิมพ์ หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อโต เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นกว่ายุคสมัยที่ไม่ยึดแนวอุดมคติตายตัว พระพักตร์และพระกรรณจึงเหมือนคนธรรมดามากกว่า มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน

        นอกจากจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการ

*************************

    ขอบคุณ  :  https://news.ch7.com/detail/454733

:  ทำเนียบพระสังฆาธิการ

Leave a Reply