วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2564 พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,ศาสตราจารย์ ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า หลักสูตรสันติศึกษา มจร ทั้งคณาจารย์ และนิสิต ร่วมกันระดมปัจจัยที่จำเป็นต่อการเลี้ยงชีพ มอบใหัแก่พี่น้องที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ภายหลังที่มีการปิดแคมป์คนงาน แล้วกลับมาเก็บตัวตามหมู่บ้านต่างๆ
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มคนที่เดินทางกลับมามีจำนวนไม่น้อยที่ติดเชื้อโควิดกลับมาด้วย จึงทำให้ตัวเลขที่ติดโควิดในจังหวัดต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ถึงกระนั้น ชุมชนในพื้นที่ได้จัดเตรียมสถานที่พร้อมทั้งอาหารการกินรองรับพี่น้องที่เดินทางกลับมาตามประสาพี่น้อง
การเกิดแก่เจ็บตายย่อมเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทั้งหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมุ่งมาดปรารถนาก็คือ การได้เห็นใบหน้า การได้ยินเสียงปลอบโยน และนอนตายอย่างสงบในอ้อมกอดของพ่อแม่และหมู่ญาติมิตรของตัวเอง
“ช่วงที่ผ่านมานั้น หลักสูตรสันติศึกษา มจร ได้บริจาคทุนทรัพย์ 300,000 บาท พร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลศรีสะเกษ และโรงพยาบาลปรางค์กู่ เพื่อสมทบกองทุนในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ได้พระมหาหรรษาได้หลีกภัยไปพักที่วัดบ้านท่าคอยนาง ต.สวาย อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ บ้านเกิดพร้อมกับนำพาคณาจารย์และนิสิตสันติศึกษาและชาวบ้าน ได้พากันวิจัยและพัฒนา เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ในพื้นที่วัดบ้านท่าคอยนางภายใต้โครงการโคกหนองนาสันติศึกษาโมเดล หลักจากที่ได้ทดลองในพื้นที่วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นผลสำเร็จแล้ว
ปัจจุบันนี้โคกหนองนาสันติศึกษาโมเดลที่วัดบ้านท่าคอยนางได้เป็นรูปเป็นร่าง ในหนองมีน้ำ บนโคกพืชต่างๆเริ่มผลิใบออกดอกออกผล ซึ่งจะสามารถจะรองรับผู้ที่เดินทางกลับบ้านเกิด ขณะเดียวกันยังได้เป็นพื้นที่การศึกษาดูงานสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย
Leave a Reply