วันที่ 10 ต.ค. 64 เมื่อช่วงค่ำวันนี้สื่อออนไลน์มีการเผยแพร่มติมหาเถรสมาคมครั้งที่พิเศษ 20.1 ในการตั้ง พระราชปริยัติเวที (เจ้าคุณเจือ) เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นที่ปรึกษา มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า มติดังกล่าว น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ มส.กำลังถูกตั้งตำถามอย่างหนักจากสังคมอยู่ในขณะนี้ ว่า มีการตั้งเจ้าคณะจังหวัดซ้อน โดยผิดระเบียบปฎิบัติที่คณะสงฆ์เคยปฎิบัติกันมา และตั้งคำถามต่ออีกว่า ในการออกเลขที่มติ มส.ให้เจ้าคุณเจือเป็นที่ปรึกษาในครั้งนี้ใช้รหัส 20.1/2564 มีต้นเรื่องมาจากเจ้าคณะใหญ่หนใต้เสนอขึ้นมาหรือไม่ เจ้าคณะใหญ่หนใต้เป็นผู้เสนอ หรือ เจ้าคณะภาค 16 เป็นผู้เสนอ และเหตุการณ์ ดังกล่าวเกิดขึ้น ณ ตอนไหน พร้อมกันนี้มีการตั้งสังเกตุข้อพิรุธเกี่ยวกับมติดังกล่าวอย่างน้อย 4 ประเด็นคือ
1) มติมหาเถรสมาคมที่สำคัญขนาดนี้ ทำไมจึงใช้เป็น ครั้งที่ พิเศษ 20.1/2564 จนเป็นพิรุธ ทั้งที่ควรจะเป็นมติครั้งที่ปกติ จนทำให้ดูเหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จากความผิดพลาดของ มส เอง ใช่หรือไม่
2) มีการเสนอให้เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นที่ปรึกษาขึ้นมาตามลำดับหรือไม่ โดยเจ้าคณะภาคเสนอเจ้าคณะหนใหญ่ภาคใต้ และเจ้าคณะหนใหญ่ภาคใต้อ เสนอ มส. ต้นเรื่องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์หรือไม่
3)นอกจากในพระบัญชาจะระบุเลขที่เป็นครั้งที่ พิเศษ แล้ว ข้อพิรุธอีกอย่าง คือ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังอายุไม่ถึง 80 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่จะตั้งให้เป็นที่ปรึกษา ทั้งที่ท่านยังทำงานได้ตามปกติ ไม่ทุพพลภาพ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เจ้าคณะภาคใช้เหตุผลอะไรในการเสนอให้เป็นที่ปรึกษา หนังสือต้นเรื่องที่เสนอขึ้นมา อ้างเหตุว่า อย่างไร อ้างว่า อายุ 80 ปี เป็นผู้ทุพพลภาพ หรือหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่
4) มีคำถามต่อว่าเมื่อมติมหาเถรสมาคมให้พระราชปริยัติเวทีเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 แล้วไฉนในวันที่ 26 กันยายน 2564 พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16 จึงทำหนังสือถึง พระราชปริยัติเวที ในนามเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ตามเอกสารแนบ)
ซึ่งหนังสือแต่งตั้งพระราชปริยัติเวที เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด ที่หลุดออกมานี้ เป็นของจริงหรือไม่ มีพิรุธหลายประการแบบนี้ พรุ่งนี้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม คงมีคำตอบ!!
Leave a Reply