พระจบ!! ลูกศิษย์ไม่จบ..เครือข่ายชาวพุทธฯ บุกสำนักงานพุทธขอดูเอกสารเหตุปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2564   เวลา 15.00 น. ที่อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ (หลังที่ 2) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายธีระ ปัดชาเขียว พร้อมด้วยเครือข่ายชาวพุทธปกป้องพระพุทธศาสนา ประมาณ 30 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการรักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม เพื่อขอเอกสารและข้อมูลข่าวสารในกรณีที่มหาเถรสมาคมได้มีมติ เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2564 ถอดถอนพระสังฆาธิการ จำนวน 3 รูป พ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด และต่อมาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2564 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้แถลงข่าวกรณีการถอดถอนพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะจังหวัด จำนวน 3 รูป โดยอ้างว่ามีมูลเหตุหลักฐานที่นำไปสู่การถอดถอนแต่งตั้งใหม่

โดยเครือข่ายชาวพุทธปกป้องพระพุทธศาสนา ขอใช้สิทธิตามมาตรา 4 มาตรา 11 วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 เพื่อขอเอกสารและข้อมูลข่าวสารกรณีถอดถอนพระสังฆาธิการ จำนวน 3 รูป ที่พ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด   โดยเอกสารและข้อมูลข่าวสารที่ขอ มีดังนี้

1.หนังสือร้องเรียนเจ้าคณะจังหวัด 3 จังหวัด คือ พระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสนฺโน) เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา, พระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และพระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินฺธโร) เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต)

2.รายงานการสอบสวนของเจ้าคณะภาค และเจ้าคณะหน ซึ่งเป็นเจ้าคณะผู้ปกครองตามลำดับ

3.หนังสือรายงานการสอบสวนและความเห็นของเจ้าคณะหนที่เสนอเข้ามหาเถรสมาคมพิจารณา

4.หนังสือของสมเด็จพระสังฆราช เสนอเรื่องถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 จังหวัดที่เสนอไปยังราชเลขานุการในพระองค์

5.หนังสือสำนักพระราชวัง กราบทูลสมเด็จพระสังฆราชในเรื่องการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 จังหวัด

นายธีระ ปัดชาเขียว ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวพุทธปกป้องพระพุทธศาสนา กล่าวว่า “ที่ผ่านมาประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชนและสื่อออนไลน์เป็นหลัก โดยยังไม่เคยได้เห็นเอกสารหรือข้อมูลข่าวสารที่เป็นทางการจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นผู้จัดทำและพิมพ์มติเถรสมาคม จึงมีหน้าที่ต้องเปิดเผยและคัดสำเนาเอกสารพร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้องเกี่ยวกับเอกสารข้อเท็จจริงในกรณีนี้ ถือเป็นการใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 โดยขอให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ขอ ภายในระยะเวลา 15 วัน”

Leave a Reply