“ทีมหมอปลา”จุก!! ทนายอนันต์ชัย ทนายกองทัพธรรม จ่อฟ้องกราวรูดทางแพ่งเรียก 50 ล้าน

วันที่ 23 มิ.ย. 65 เวลา 10.30 น. ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายอนันต์ชัย ไชยเดช เจ้าของฉายาทนายกระดูกเหล็ก ในฐานะ ทนายกองทัพธรรม ร่วมกับทนายกองทัพธรรมประจำจังหวัดนครพนม นายเอื้อ มูลสิงห์ นางสุมาลี พูลศิริกุล และ นายพรหมพิริยะ ยสพันธ์ แถลงข่าว โดย พระครูโสภณภวนานุสิธ เจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร  ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร่วมด้วย

นายอนันนต์ชัย ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า จากกรณีมีผู้ไปร้องเรียนทราบว่าชื่อ น.ส.วรรณวิสา กล่าวหา วัดมรุกขนคร ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ค้างจ่ายค่าก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด โดยผู้ที่รับเหมาก่อสร้างเป็นคุณตาของตน ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว แล้วระบุว่าคุณตามีพินัยกรรมให้ลูกหลานติดตามทวงหนี้กับ พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร/ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10  ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดมุกขนครในขณะนั้น โดยกล่าวหาว่าค้างจ่ายค่าก่อสร้างถาวรวัตถุ เป็นเงินจำนวนกว่า 1 ล้านบาท และยังกล่าวอ้างอีกว่ามีการร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าได้มีการโทรศัพท์ไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนดังกล่าวด้วย

ต่อมาสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด  ได้มีหนังสือชี้แจงลงวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการร้องเรียนไม่มีปรากฏเอกสารร้องเรียนมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนมตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวอ้าง ส่วนที่ผู้ร้องกล่าวว่ามีการโทรศัพท์สอบถามในเรื่องดังกล่าวไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนมว่าไม่ว่าง ขอเรียนว่าไม่มีกรณีดังกล่าว และไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากผู้ร้องเรียนและเพิ่งทราบว่ามีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจากการเสนอข่าวของสื่อมวลชน

ทนายกระดูกเหล็ก กล่าวต่อว่า ข้อมูลของวัดมรุกขนคร เดิมเป็นเพียงวัดร้างเก่าแก่ และได้รับการจัดตั้งเป็นวัดตามกฎหมายเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2539 นางจิราภรณ์ เจริญนาม อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ดอนนางหงส์ ได้ทำหนังสือยกเลิกสัญญาก่อสร้าง ดังนั้น ณ วันที่บอกเลิกสัญญา วัดมรุกขนครยังไม่มีสถานะเป็นวัด เป็นเพียงแค่วัดร้างเท่านั้น

“การก่อสร้างเป็นเรื่องของเอกชนหรือประชาชนที่มีจิตศรัทธาสร้างวัด และอยู่ในการดูแลของกรมศาสนา ไม่ใช่สำนักพุทธ ฯ และ พระเทพวรมุณี ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส จึงไม่รับทราบเกี่ยวกับการก่อสร้างดังกล่าว จึงไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน จากข้อมูลสาเหตุที่ยกเลิกสัญญา เนื่องจากผู้รับเหมาทำงานล่าช้า ไม่ดูแลงานอย่างใกล้ชิดตามเอกสาร จึงได้บอกเลิกสัญญา แม้สมมติว่า มีสถานะเป็นวัดแล้ว หากมีผู้จ่าย ก็อาจโดนมาตรา 157 เนื่องจากเจ้าอาวาส หรือพระ มีสถานะเป็นเจ้าพนักงาน”

ด้าน พระครูโสภณภวนานุสิธ เจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร กล่าวฝากถึงบุคคลที่ให้สัมภาษณ์สื่อต่าง ๆ บุคคลดังกล่าวได้ไปแอบอ้างว่าเป็นลูกของนางประเสริฐ และให้ข่าวบิดเบือน ทำให้ประชาชนได้รับข่าวสารผิดเพี้ยน และทำให้พระเทพวรมุนีเสียหาย เพราะเรื่องที่ให้ข่าวไม่เป็นความจริง ส่วนรายละเอียดเป็นไปตามทนายอนันต์ชัย ไชยเดช กล่าว

ส่วน นาย สมพงษ์ หมวดไธสง ผอ.สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อที่ร้องเรียนมายังสำนักพุทธฯ ตนได้ตรวจสอบตามเวลาที่ปรากฏตามที่แถลงที่สำนักนายกฯ ก็ไม่มีปรากฏว่ามีการติดต่อมา ส่วนรายละเอียดเป็นไปตามทนายอนันต์ชัยแถลง

ทั้งนี้ ทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า จะหารือกับทนายกองทัพธรรมประจำจังหวัดนครพนม เพื่อดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน รวมทั้งนักข่าวที่มากับหมอปลาด้วย ซึ่งทางแพ่งประเมินไว้ 40-50 ล้านบาท ส่วนลูกศิษย์ของท่านพระเทพวรมุนีเรียกร้องอยากเห็นหน้าหมอปลาพร้อมทีมงาน ขอบอกเลยว่าไม่นานคงจะได้เห็นหน้าค่าตาบุคคลพวกนี้อย่างแน่นอน แต่เขาจะมาในลักษณะใดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กรณีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมด้วย นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมผู้เสียหาย 2 ราย ยื่นหนังสือถึง นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อขอความเป็นธรรม และให้ตรวจสอบพฤติกรรมพระสงฆ์ ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี (สปน.)  ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี

โดยกรณีแรก เป็นหญิงสาว อ้างว่า ถูกเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งใน อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่งข้อความทางเฟซบุ๊ก และวิดีโอคอลในเชิงลามกอนาจาร มาพูดคุย ซึ่งร้องเรียนไปยังเจ้าคณะอำเภอ แต่ได้รับคำตอบว่าพระรูปดังกล่าวอาจสติไม่ดี จึงขอเรียกร้องให้ปลดเจ้าอาวาสคนดังกล่าว

กรณีที่ 2 หญิงกลางคน เรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม และ พระครูวิสาลสรกิจ ซึ่งเป็นหลานของผู้รับเหมาก่อสร้างถาวรวัตถุ วัดมรุกขนคร ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกบอกเลิกสัญญาและค้างค่าจ้างกว่า 1 ล้านบาท จนได้รับผลกระทบทำให้เกิดความเดือดร้อน และที่ผ่านมาได้ติดตามทวงถามแต่ถูกบ่ายเบี่ยง จึงขอให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือ

นายจีรพันธ์ หรือหมอปลา  ระบุว่า ที่ผ่านมา พาผู้เสียหายไปร้องเรียนมาแล้วหลายที่ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และขออย่าโยนเรื่องกันไปมา  “อยากให้นายอนุชา ที่กินภาษีประชาชน มารับหนังสือด้วยตัวเอง อย่าส่งแค่ตัวแทนมารับ อย่ารับปากแต่ไม่รับทำ เพราะผู้เสียหายไปมาแล้วทุกที่ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ตนจะมาติดตามความคืบหน้าและจะนำผู้เสียหายอีก 2 ราย มาร้องเรียน และจะมาทุกเดือนแน่นอนในฐานะพลเมืองดี และฝากถึงนายอนุชา ว่า พ.ร.บ.สงฆ์ จะใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญหรือ..”

Leave a Reply