การศึกษาคณะสงฆ์ : ติดปีก!!

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา “เปรียญสิบ” ลงพื้นที่ภาคอีสานนอกจากพูดคุยกับชาวบ้านหลายจังหวัดที่ทำโคก หนอง นา ที่เดินตามรอยศาสตร์ของพระราชา ยามว่างมักหาเวลาดอดไปตามวัดไปหาพระคุณเจ้าที่พอรู้จักกัน เพื่อไปสอบถามสารทุกข์สุขดิบ้าง แอบถามสถานการณ์คณะสงฆ์บ้าง ไปคราวนี้เจอ 2 ประเด็นใหญ่ที่วงการพระสงฆ์ภาคอีสานพูดถึงกันและอยากให้เขียนเพื่อปรามมิให้กำเริบเหิมเกริมหนักไปกว่านี้ คือ  หนึ่ง ลูกน้องจอมไถกับเจ้านายจอมเก็บ?? สอง แก๊งค์กินไวน์ ซึ่งหากเปิดชื่อออกไปทั้ง 2 ประเด็น ทุกรูป ทุกท่านก็รู้จัก แต่เป็นเอาว่า ตอนนี้ไม่อยากจะพูดถึงทั้ง 2 ประเด็น บางทีเรื่องเจ้ากู เรื่องส่วนตัวเจ้ากู ที่ไม่กระทบต่อส่วนรวมมาก พูดหรือเขียนไปแล้วกระทบต่อภาพลักษณ์พุทธศาสนาจนเกินไป ก็ไม่อยากไปแตะ เพราะเสียมากกว่าได้

เรื่องที่น่าสนใจมากกว่าคือ 2- 3 วันมานี้เห็นภาพบรรดาพระนักปราชญ์ ราชบัณฑิต ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายมหานิกายหรือธรรมยุตไปรวมตัวกันในงานประชุมสัมมนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม – บาลีแล้ว “ชื่นใจ” และ “ปลาบปลื้มใจ” แทนพระหนุ่ม เณรน้อย รวมทั้งเจ้าสำนักเรียนบาลี – นักธรรม โรงเรียนพระปริยัติธรรม

“เปรียญสิบ” เกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ริเริ่มและสอบถามบุคคลที่จับงานนี้มาตั้งแต่ต้นคือ พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6 แม้ตอนหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเห็นชอบและตราเป็น พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2562 แล้วทำท่ากินแห้ว ไม่ได้รับสรรงบประมาณแผ่นดิน ก็ช่วยประสานให้คณะกรรมาธิการศาสนา ฯ สภาผู้แทนราษฎร์ ผ่าน นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ดร.นิยม เวชกามา ช่วยกระทุ้ง ช่วยจิก ช่วยปลุก หน่วยงานที่รับผิดชอบรวมทั้งพระคุณเจ้าทั้งหลายด้วยให้ใส่ใจและถามหาสิทธิอันพึงได้ที่คณะสงฆ์และชาวพุทธในประเทศไทยต้องได้ จากรัฐบาลนี้ด้วย จนล่าสุดรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังยอมอนุมัติงบประมาณให้โรงเรียนพระปริยัติธรรมจาก 35 อัตราได้มาแค่ 16 อัตรา  ในขณะที่อีก 3 แท่งคือ สำนักเรียนบาลี -นักธรรม และพระปริยัตินิเทศก์ได้เป็นรายชั่วโมงสอนชั่วโมงละ 200 บาท เรื่องนี้แม่กองธรรม แม่กองบาลี รวมทั้งประธานพระปริยัตินิเทศก็ต้องทวงถาม สิทธิอันพึงได้ จาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ต่อ อย่าหยุดอยู่แค่ 200 บาทต่อชั่วโมง

“สมหมาย สุภาษิต” ผอ.สถานีโทรทัศน์ MCU.TV ส่งลิงค์ยูทูปมาให้ดูทุกชอต ได้ฟังทุกแมต ผู้คนที่พูดไม่ว่าจะเป็นพระพรหมบัณฑิต พระพรหมโมลี ไม่ว่าจะเป็นพระธรรมราชานุวัตร พระธรรมวัชบัณฑิต  พระธรรมวชิราจารย์ หรือแม้กระทั้งเจ้าคุณพล เจ้าคุณมีชัย ทุกรูปพูดแล้วอัดแน่นด้วยสาระ เพราะท่านเหล่านี้คือ คนรู้จริงและทำงานจริง เกี่ยวกับการศึกษาคณะสงฆ์

คนฟัง ๆ แล้วก็สบายใจ ทิศทางการศึกษาคณะสงฆ์ต่อจากไปทั้งแผนกธรรมและบาลี มีความหวัง เจ้าสำนักเรียน ครูสอน พอมีน้ำหล่อเลี้ยง ต่อจากนี้ไปคือมีหน้าที่หาวัตถุดิบคือ คนมาเรียนอย่างเดียว ซึ่งเป็นงานยากกว่าหาเงินเป็นสิบเท่า

ใครจะคิดอย่างไรก็ช่างการที่คณะสงฆ์มีพระราชบัญญัติฉบับนี้มาได้ต้องขอชมเชยและชื่นชม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่จับงานนี้มาตั้งแต่ต้นร่วมกับเจ้าคุณพล และอีกหลายรูป รวมทั้ง อดีตสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศด้วย

ต่อจากนี้การศึกษาของคณะสงฆ์คงจะก้าวหน้ามาก หากคณะสงฆ์ตั้งใจทำจริงจัง ไม่ต้องห่วงเรื่องงบประมาณ ไม่ต้องห่วงเรื่องอุปกรณ์การศึกษาอะไรแล้ว  มจร และ มมร. เขามีอย่างไร ต่อจากนี้คณะสงฆ์ไทยทั้งแม่กองธรรม แม่กองบาลี และศูนย์ปริยัตินิเทศก็มีแบบนั้น!!

สองปีที่ผ่านมาที่ คณะสงฆ์ไม่ได้รับงบประมาณจัดสรรจากภาครัฐตามพระราชบัญญัตินี้ หลายรูป หลายคนอาจจะโทษรัฐบาล โทษคนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บางท่านแขวะว่ารัฐบาลถังแตกบ้าง คนสำนักงานพุทธไม่ทำงานบ้าง

แต่มีคนบอก “เปรียญสิบ” ว่า เป็นที่พระคุณเจ้านั่นแหละ รอให้ประเคนอย่างเดียว ให้กรอกเอกสารแผ่นเดียวยังไม่กรอกให้เลย ซ้ำบางจังหวัดเป็นสำนักเรียนแท้ ๆ ยังไม่รู้เลยว่า คณะสงฆ์เรามีพระราชบัญญัตินี้แล้ว….คนที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังเป็นถึงระดับเจ้าคณะภาคด้วยนะขอรับ!!

Leave a Reply