วันนี้ (11 ส.ค. 65) เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านพัฒนาชุมชน และส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยรัฐวิสาหกิจ และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย นำข้าราชการ และ เจ้าหน้าที่ รับฟังพระธรรมเทศนาเฉลิมพระบารมีใน “อุภินนนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคุง จุลเจริญ วางพวงมาลัยถวายสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ในพระอุโบสถ จากนั้นเปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านหน้าพระอุโบสถ จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จุดเทียนส่งธรรมหน้าธรรมาสน์ เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล โดยมี พระเทพวัชรเมธี อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยรองเจ้าคณะภาค 6 – 7 (ธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร ให้ศีล เจ้าหน้าที่อาราธนาธรรม ต่อด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา จาก พระเทพวัชรเมธี จบแล้วอนุโมนา
พระเทพวัชรเมธี ได้แสดงพระธรรมเทศนา “อุภินนมัตถจรกถา” เป็นพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยเนื้อหาของบทพระธรรมเทศนาแสดงถึงพระราชการุณยธรรม สำแดงให้ชาวโลกประจักษ์ถึงความเป็น “อารยะ” ของคนไทยในภารกิจด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ คือการที่สมเด็จสภานายิกาสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินรีบรุดด้วยพระองค์ ไปทรงอำนวยการรับผู้อพยพซึ่งลี้ภัย สงครามจากประเทศเพื่อนบ้าน หลั่งไหลเข้ามาทางชายแดนจังหวัดตราด ครั้งนั้น ต้องทรงพระราชอุตสาหวิริยภาพอย่างแรงกล้า ดังพระราชปรารภเล่าไว้ว่า
“ฉันได้รับแจ้งว่าชาวเขมรอพยพหนีตายเข้ามาทางจังหวัดตราดเป็นแสน ๆ คน ฉันเป็นสภานายิกาของสภากาชาดไทย จึงรีบเดินทางไปดูแล …โดยคัดเลือกคนไปด้วยเพียงไม่กี่คน ไม่ต้องการให้เป็นคณะใหญ่ เพราะมีความไม่สะดวกต่าง ๆ เช่นที่พักมีจำกัด และน้ำสะอาดหายากมาก ต้องขับรถออกไปหาน้ำไกลตั้งเป็นชั่วโมง ๆ …เราพักกันในที่พักที่สร้างขึ้นอย่างง่าย ๆ ฉันและทุกคนต้องนอนกับพื้นศาลาใหญ่ โดยนอนบนเสื่อกก หนุนเป้ที่แต่ละคนนำติดตัวมาแทนหมอน ไม่มีห้องนอน มีส้วมก็เป็นแบบส้วมซึม…”
สมเด็จบรมบพิตร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพร้อมอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นได้เสมอ แม้พระชนมชีพก็ทรงกล้าหาญที่จะเสียสละได้ ตามอย่างพระราชบุพการีแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ดังพระราชดำรัสที่ทรงเล่าพระราชทานถึงการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้ปฏิบัติราชการชายแดน ในพื้นที่อันเต็มไปด้วยภยันตราย ไว้เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๒๖ ความตอนหนึ่งว่า
Leave a Reply