เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ที่วัดไตรมิตรวิทยารามฯ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมสภา ผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายนพดล แก้วสุพัฒน์ กรรมาธิการฯ นายทองแดง เบ็ญจะปัก กรรมาธิการฯ นายณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการฯ นางภิรมย์เจริญรุ่ง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน กมธ. ได้เข้ากราบเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ประธานคณะกรรมการศูนย์ควบคุมการเดินทางไปต่างประเทศสำหรับพระภิกษุสามเณร (ศ.ต.ภ.)
นายเพชรวรรต เปิดเผยว่าจากที่ได้เข้ากราบเจ้าประคุณสมเด็จฯเพื่อหารือประเด็นการร้องเรียนจากสมาคมสมัชชาพระธรรมทูตยุโรปที่มีความยากลำบากในระยะเวลาของพาสปอร์ต ในบางกรณีต้องเสียชีวิตหรือมรณภาพเพราะจะต้องกลับไปรักษาตัวในต่างประเทศช้าไปด้วยเหตุพาสปอร์ตหมดอายุในห้าปี ซึ่งประชาชนทั่วไปขณะนี้ได้มีเงื่อนไขที่สามารถขอรับพาสปอร์ตเป็นระยะ 10 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามได้รับการชี้แจงจากอธิบดีกรมการกงสุลครั้งที่ได้มาชี้แจงในคณะกรรมาธิการว่า ขณะนี้มีการขยายพาสปอร์ตประเภททั่วไปหรือท่องเที่ยว (เล่มสีน้ำตาล) ให้กับประชาชนทั่วไปจาก 5 ปีสามารถขอได้เป็น 10 ปีแล้ว ซึ่งพระสามารถที่จะได้รับสิทธิ์นี้ได้ด้วย
นายเพชรวรรตกล่าวต่อไปอีกว่าจากที่ได้นำกราบเรียนเจ้าประคุณสมเด็จฯจึงได้ทราบว่าทางคณะสงฆ์ยังไม่มีใครทราบเรื่องนี้ซึ่งเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านเห็นดีด้วยที่จะขยายพาสปอร์ตพระเป็น 10 ปีให้เป็นมาตรฐานดังนานาอารยประเทศ อีกทั้งการตรวจสอบพระก็มีวิธีตรวจสอบติดตามพระสงฆ์ได้หลายวิธีในเทคโนโลยีปัจจุบัน ทั้งนี้ตนได้โทรศัพท์ประสานงานกับอธิบดีกรมการกงสุลเพื่อออกหนังสือ ระเบียบและเงื่อนไขซึ่งขณะนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันอยู่ ทั้งนี้จะแจ้งเป็นหนังสือมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเพิ่มโอกาสสำหรับพระสงฆ์ที่จะไปปฏิบัติภารกิจยังต่างประเทศสามารถขอสิทธิ์พาสปอร์ต 10 ปีตามสิทธิ์ของประชาชนทั่วไปที่ได้รับต่อไป
Leave a Reply