“เพชรวรรต” นำทีมเพื่อไทยกราบหลวงพ่อเพชรพิจิตร “อธิษฐาน” สานต่อพุทธมณฑลทั่วประเทศแบบสมัย “ทักษิณ”

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 14.30 น. ที่วัดท่าหลวง (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล อดีตรองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นำทีมเพื่อไทยเข้ากราบสักการะองค์หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะที่งดงามและทรงพุทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ องค์พระสิงห์หนึ่ง ยุคเชียงแสน ที่มีตำนานที่เป็นพระที่มาจากจอมทอง เมืองเชียงใหม่ และอัญเชิญหลวงพ่อเพชรมาที่พิจิตร

จากนั้นได้เข้าหารือกับ พระเมธีธรรมประนาท (ปรีชา ปฏิภาณเมธี ป.ธ.9) เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร วัดท่าหลวง ได้แนวคิดว่าการศึกษาพระปริยัติธรรมของไทย สาเหตุที่พระเณรลดลงด้วยการสนับสนุนงบประมาณให้กับกระทรวงศึกษาเป็นจำนวนมาก การสนับสนุนงบประมาณนมโรงเรียน และทุกอย่างที่ภาคประถมศึกษาและสามัญศึกษาฟรีทั้งหมด อีกประการมีการทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองเข้าใจผิดว่า การเรียนภาคปริยัติธรรมในแนวข้อกฎหมายว่าวุฒิที่ได้รับจะไม่ถูกรับรองจากภาครัฐอย่างถูกต้อง ทำให้มีการหันเหให้นักเรียนไปเรียนในโรงเรียนสามัญมากขึ้น ส่งผลให้เณรลดน้อยลง จนส่งผลให้พระสงฆ์ปัจจุบันอันเป็นกำลังสอนศีลธรรมให้กับญาติโยมลดน้อยลงเป็นหลักแสนรูป จักรฟันเฟืองที่จะอบรมสั่งสอนศีลธรรมน้อยลงส่งผลให้ ประชาชนทุกวันนี้ห่างเหินจากศีลธรรม ส่งผลให้มีคดีต่างๆ เกิดขึ้นมากมายกว่าในอดีตมาก ดังนั้นควรกลับมาฟื้นฟูโรงเรียนพระปริยัติให้กลับมารุ่งเรืองบ้าง

เวลา 15.00 น. ที่วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร นายเพชรวรรต ได้เข้าสักการะพระราชสิทธิเวที (วิรัช วิโรจโน ป.ธ.4) วัดท่าหลวง ได้หารือข้อธรรมและการพัฒนาคณะสงฆ์ พระราชสิทธิเวที กล่าวว่าสถานที่แห่งนี้ตนและคณะสงฆ์ภาคราชการเอกชนได้ร่วมกันสถาปนาพื้นที่ 300 กว่าไร่โดย 200 ไร่จะจัดพื้นที่เป็นวิทยาลัยสงฆ์ และอีก 100 ไร่ จะจัดสร้างเป็นพุทธมณฑล และได้มอบแปลนการสร้างพุทธมณฑลไว้ให้ด้วย

นายเพชรวรรต กล่าวว่า เป็นมิติที่ดีก่อนหน้าที่จะมากราบ พระราชสิทธิเวที ตนได้อธิษฐานกับหลวงพ่อเพชร อุโบสถวัดท่าหลวง จะยกย่องพุทธมณฑล และฟื้นฟูการจัดสร้างพุทธมณฑลทั่่วประเทศตามมติ ครม. เมื่อปี พ.ศ.2547 สมัย นายกทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเสียดายที่หลังจากมีมติดังกล่าวออกมา ก็มีการปฏิวัติรัฐประหารมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการพุทธมณฑลทั่วประเทศดังกล่าวเงียบหายไป อย่างไรก็ดีหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล ตนจะเสนอต่อพรรคเพื่อฟื้นฟูมติ ครม. ดังกล่าว ให้สรรค์สร้างให้เป็นจริง มีพุทธมณฑลทั่วประเทศ สามารถรองรับการเป็นศูนย์รวมใจศูนย์การศึกษา ศูนย์กลางงานราชการที่เกี่ยวข้อง ศูนย์กลางหน่วยงานภาคเอกชนที่สนับสนุนงานพระพุทธศาสนา เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างหน่วยงานด้านพระพุทธศาสนา

Leave a Reply