วันที่ 29 มิ.ย.66 หลังจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ร่วมฟังความคิดเห็นจาก “องค์กรชาวพุทธ” ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมรับปากว่าจะต้อง “ดูแลเป็นพิเศษ” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่วัดทรายทอง บ้านบากง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ร่วมพิธีฌาปนกิจศพ 2 ชาวบ้านหาของป่าเหยื่อไฟใต้ พร้อมหารือตัวแทนประชาชน ยันไม่ถอนทหารหมด เว้นพื้นที่ชาวพุทธที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ขณะที่สมาพันธ์ไทยพุทธนราฯ ยื่น 7 ข้อเรียกร้อง ขอตั้งกองกำลังดูแลความปลอดภัย – ฟื้นโครงการไทยพุทธคืนถิ่น
พ.ต.อ.ทวี กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการพูดคุยว่า วันนี้มาให้กำลังใจญาติพี่น้องผู้สูญเสีย โดยเฉพาะเหตุการณ์ในภาคใต้ จะต้องให้กำลังใจกับพี่น้องไทยพุทธทั้งหมดด้วย พร้อมเน้นย้ำว่า “เราจะทำอย่างไรจึงจะปกป้องคุ้มครองไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก ในอนาคตอยากให้มีพื้นที่ให้พี่น้องไทยพุทธและพี่น้องมุสลิมได้รับรู้ เลขาธิการ ศอ.บต. แม่ทัพภาคที่ 4 รู้ และถ้าเราได้เป็นรัฐบาล เราก็ต้องรู้ว่าปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย”
“อยากให้ทุกคนมีกิจกรรมสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันหว่างพี่น้องไทยพุทธและพี่น้องมุสลิม เพราะเชื่อว่าวิธีการสร้างมิตรภาพที่ดีจะสามารถสร้างความสุขสงบให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนได้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
และว่า “ผมมาด้วยความจริงใจ ไม่ได้มาเพื่อการเมือง ไม่ได้มาเพื่อต้องการชื่อเสียง อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พี่น้องที่มีความทุกข์ได้พ้นทุกข์ ทำงานเพื่องาน ไม่ได้ทำงานเพื่อชื่อเสียง ไม่ได้ทำงานเพื่อตัวเองและมีโอกาสทำให้พื้นที่ของเรามีความปลอดภัย มีความสงบสุข มีมิตรภาพเกิดขึ้นในพื้นที่ และเชื่อว่าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงต้องมี ต้องเปลี่ยนทางที่ดีขึ้น”
@ไม่ถอนทหาร-เน้นสลับกำลัง อ้างพื้นที่พุทธต้องดูแลเป็นพิเศษ
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงแนวทางการพูดคุยสันติสุขว่า อาจจะให้มีการพูดคุยแบบพลเรือนคุยกัน ในส่วนของการถอนกำลังทหารที่พี่น้องมีความกังวลนั้น ก็ต้องมาคุยกันเป็นพื้นที่ คือ ไม่ได้ถอนทั้งหมด พื้นที่ไหนที่เป็นพื้นที่ไทยพุทธ ทหารต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่ละพื้นที่จะใช้รูปแบบเดียวทั้งหมดไม่ได้ เพราะมีลักษณะที่แตกต่างกัน
“เราต้องค่อยๆ ทำ เราจะถอนกำลังอย่างไร เวลาคณะใหญ่มาคุย (หมายถึงตัวแทน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล) ทางนี้ก็มาให้ข้อมูลว่าจะเอาอย่างไร มาคุยกัน คือมองว่า บางทีครอบครัวสูญเสียกับผู้สูญเสียคุยกันเอง ก็จะมีความเข้าใจกัน บางทีนราธิวาสอาจจะพัฒนาเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษหรือแบบไหนก็มาคุยกัน บางทีคนคนหนึ่งมีหมายจับเยอะแยะเลย ดูเหมือนเขายิ่งใหญ่มากเลย พอเขาถูกวิสามัญฯ เขาก็เป็นคนธรรมดา”
เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงการพัฒนาและยกระดับกำลังอาสาสมัครในพื้นที่ด้วยว่า ถ้าให้มีอาสาสมัคร มีกองกำลังของชาวบ้านที่แข็งแกร่ง ไปพัฒนา อส.หรือทหารพราน จะมีชื่อว่าอะไรก็แล้วแต่ ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจว่า อันนี้คือการรักษาความปลอดภัย ปกป้องคนกลุ่มนี้ แต่ความเห็นระหว่างคนมีปืนกับคนมีปืน อาจจะต้องทิ้งไว้สักระยะหนึ่งแล้วค่อยคุยกัน
“อะไรที่ดีเราจะทำต่อไป อะไรที่ซับซ้อนหรือยังไม่ดี เราก็ควรมาทำให้ดีขึ้น ปรับและพัฒนา ทุกชีวิตต้องมีความปลอดภัย จะปลอดภัยอย่างไร หนีไม่พ้นว่าอาจจะต้องมีกำลังมาดูแลมากขึ้น ซึ่งบางพื้นที่มีแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องการกำลัง และอีก 95 เปอร์เซ็นต์ เขาอาจจะไม่ได้ต้องการ ก็ต้องเอาส่วนโน้นมาอยู่ในส่วนนี้ แต่ก็อยากให้เคารพข้าราชการที่มาทำงานที่นี่ แต่ถ้าข้าราชการออกนอกกรอบก็ต้องบอก คือประชาชนต้องเป็นใหญ่”
@ ยื่น 7 ข้อขอตั้งกองกำลัง รปภ. – ฟื้นไทยพุทธคืนถิ่น
ด้าน นายกรีฑา แดงดี รองประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดนราธิวาส ผู้ประสานงานสมาพันธ์ไทยพุทธนราธิวาส ได้ยื่น 7 ข้อเรียกร้องต่อพรรคประชาชาติ ได้แก่
1.เพิ่มมาตรการด้านความมั่นคงและความปลอดภัยกลุ่มไทยพุทธอย่างเป็นรูปธรรม
2.เพิ่มงบประมาณด้านการส่งเสริมอาชีพสำหรับผู้ใด้รับผลกะทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ในทุกรูปแบบ
3.การตั้งกองกำลังเฉพาะกิจดูแลกลุ่มไทยพุทธ โดยมีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม
4.การแต่งตั้งคณะกรรมการดูแลกลุ่มไทยพุทธ กลุ่มเสี่ยงพื้นที่สีแดงในทุกมิติ
5.การดูแลกลุ่มไทยพุทธ กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ที่ติดเตียง พิการ ยากไร้ ชราภาพ อย่างเป็นรูปธรรม
6.การสนับสนุนงบประมาณกิจกรรมโครงการของกลุ่มไทยพุทธในทุกรูปแบบอย่างเป็นรูปธรรม
7.การพื้นโครงการไทยพุทธคืนถิ่นในทุกรูปแบบให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ที่มา : ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา
Leave a Reply