วันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2564 จากกรณีพระครูสิริปัญญาเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ มรณภาพ เมื่อวันที่ 1 เมษายน หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พร้อมกับพระสงฆ์ในเขตสัมพันธวงศ์ ที่วัดไตรมิตรฯจำนวน 151 รูป โดยขณะนี้ทาง รพ.ตำรวจ กำลังดำเนินการชันสูตรหาสาเหตุการมรณภาพอยู่นั้น มีรายงานว่า ภายหลังการรับวัคซีนโควิด-19 ยังมีพระวัดสัมพันธวงศ์ที่รับวัคซีนอีก 3 รูป มีอาการข้างเคียง คือไข้ขึ้นสูง จึงนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดย 1 ใน 3 รูปมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวกนั้น

เว็บไซต์alittlebuddha.com ได้เผยแพร่เหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมระบุว่า “พระ กทม. เครียด! ฉีดวัคซีนแล้วนอนไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น หมอกำลังหาสาเหตุมรณภาพของพระครูวัดสัมพันธวงศ์

เข็มแรกเพิ่งเริ่ม วัดไตรมิตรเริ่มก่อน ก็เกิดเหตุ “พระวัดสัมพันธวงศ์มาฉีดร่วม แล้วนอนไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” พระสงฆ์ทั่ว กทม. ได้ข่าวก็หนาวสะท้าน กลัวนอนไม่ตื่นเหมือนพระวัดสัมพันธวงศ์ วันนี้ พระวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพิ่งฉีดผ่านไป ไม่รู้พรุ่งนี้จะมีใคร “ไม่ตื่น” อีกหรือไม่ ส่วนพรุ่งนี้คิวของ “วัดระฆัง” ก็รอฟัง “วัดปากน้ำ” ว่าจะตื่นหรือไม่ ถ้าตื่นเช้าขึ้นมา “ไม่มีอะไรผิดปกติ” การฉีดก็คงจะดำเนินการต่อไป แต่ที่แน่ๆ เวลานี้ หลวงพ่อหลวงลุง ล้วนแต่ถามกันเซ็งแซ่ “มันปลอดภัยแน่นะหมอ อาตมายังไม่อยากไปพระนิพพาน” พุทโธ พุทโธ”

รอผลนิติเวช ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธ์วงศ์มรณภาพ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรงพยาบาลตำรวจกำลังดำเนินการชันสูตรหาสาเหตุการมรณภาพของพระครูสิริปัญญาเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กทม. ที่เมื่อวานนี้มีการรับวัคซีนโควิดอยู่ เนื่องจากลูกศิษย์ได้พบท่านมรณภาพในกุฏิเมื่อเวลา 14.00 น. เมื่อวานนี้ จึงไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดได้ว่าช่วงเวลาใด และเกี่ยวข้องกับเรื่องใด เบื้องต้นทราบว่า มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ประกอบกับอายุมาก ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา เนื่องจากอยู่ในเกณฑ์สูงอายุ คาดว่า อาจเป็นเหตุบังเอิญร่วม

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับพระรูปดังกล่าวได้รับวัคซีนตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันที่ 31 มีนาคม และได้สังเกตอาการจนครบ 30 นาที ตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ จากนั้นได้รับการถวายภัตตาหารเพล อาการปกติทุกอย่าง ทั้งนี้ จากการสอบถามลูกศิษย์วัด แจ้งว่า พระครูสิริปัญญาเมธี อาพาธโรคเรื้อ ทั้ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และ ไขมัน และช่วงเย็นสังเกตว่า มีอาการเพลีย จึงขอตัวไปจำวัด และวัดไม่เห็นลงมาฉันภัตตาหารเช้า จนสายเกิดความสงสัยจึงไปดูที่กุฏิ พบว่ามรณภาพ