“ราชบัณฑิต” ออกโรง “วอนชาวพุทธ” อย่าปล่อยให้พระดีโดดเดี่ยว!!

 วันที่ 1 สิงหาคม 2566  เพจ  Banjob Bannaruji – บ้านบรรณรุจิ ซึ่งเป็นเฟชบุ๊คส่วนตัวของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. บรรจบ บรรณรุจิ ราชบัณฑิต ป.ธ. 9  อดีตสามเณรนาคหลวง ได้โพสต์ข้อความว่า ..ขอเวลานอกให้หลวงพ่อพยอมหน่อย

หลวงพ่อพยอม หรือ พระราชธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เป็นพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งที่เสียสละเพื่อสังคมไทยมายาวนานเกือบ ๕๐ ปี     นอกจากเทศน์โดนใจสังคมด้วยลีลาธรรมะหรรษาแล้ว    ยังเอาธรรมะที่เทศน์มาทำเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม   โดยใช้พื้นที่วัดเป็นที่ตั้งโครงการ  ให้สังคมคนมีเงินมีรายได้กระจายเงินกระจายรายได้ออกมา

จุนเจือคนด้อยกว่าแบบเต็มใจ   คนยากจนมีรายได้  คนไม่มีงาน มีงานทำ คนติดสาเสพย์ติด บรรเทายาเสพยติดได้   คนไม่มีที่อยู่อาศัย มีที่ซุกหัวนอน

อย่าว่าแต่คนเลย สุนัขจรจัดพลัดเข้าไปในวัดสวนแก้วยังมีที่นอนมีที่กินอย่างอิ่มหมีพีมัน

ความสียสละเพื่อสังคมของท่าน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดบวรนิเวศวิหาร จึงทรงพระเมตตาบริจาคเงินช่วยเหลือ ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ (หนึ่งล้านบาท) ถึงกับทำให้ท่านอุทานว่า ฟ้ามีตา

พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนชั้นพระธรรมดาให้เป็นเจ้าคุณ ไม่ต้องผ่านเป็นมหา พระครู เหมือนกับว่าให้ขึ้นลิฟต์ขึ้นตึกสูงเลย ด้วยเหตุผลว่า จะได้ทำงานได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นบันไดทีละขั้น

ท่านอดีตประธานองคมนตรี พลเอกเปรม  ติณสูลานนท์ ก็เคยรับพระกระแสพระราชดำรัสของ รัชกาลที่ ๙ ให้เข้ามาช่วยดูแลงานพัฒนาที่วัดของท่าน

ซึ่งทั่งหมดน่าจะเป็นความภูมิใจของคณะสงฆ์ไทยและชาวพุทธไทยได้ รวมทั้งของคนทั่วไปในสังคม

ท่านเป็นพระ ประเภท socially engaged คือสัมพันธ์กับสังคมมาก ทัืงยังเป็นที่พึ่งทางความคิดความเห็นของสังคม จึงอาจมีคำพูดที่พลาดได้ แต่ก็เชื่อว่าคงจะไม่ได้ออกมาจากเจตนาร้ายใด ๆ

@ พระปุถุชนอย่างท่าน เมื่อเอาความดีกับความพลาดพลั้งทางคำพูด ที่อาจมีได้ แต่ไม่ถึงขั้นขาดจากความเป็นพระมาชั่งดูกันแล้ว ยังกราบไหว้ได้สนิทใจ ใครหรืองค์กรไหนจะยื่นฟ้องหรือสอบสวนท่านก็ให้ทำไป

แต่ขอว่า   ควรต้องเริ่มต้นสอบสวนด้วยพระธรรมวินัยก่อน จึงจะสอบตามมาด้วยกระบวนการทางกฏหมายแบบโลก

เพราะพระธรรมวินัยเท่านั้นจึงจะชี้ขาดว่าท่านยังคงความเป็นพระหรือไม่

สังคมไทยพุทธเป็นสังคมปัญญา อย่าปล่อยให้พระดีโดดเดี่ยว.

Leave a Reply