เปิดภาพประทับใจ “พระไม่ทิ้งโยม” ด้าน ผู้ว่าฯ น่าน รุดลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วม

วันนี้ (22 ส.ค. 67)  เปิดภาพประทับใจโยม พระเณร นำโดย พระครูวินัยธรอัศวิน ธมฺมโชโต เจ้าอาวาสวัดพวงพะยอม ตำบลในเวียง เมืองน่าน จังหวัดน่าน พายเรือเข้าไปช่วยชาวบ้านขนของหนีน้ำ เป็นที่พึ่งได้ทั้งกายและใจ

ด้าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ระหว่างวันที่ 20 – 21 สิงหาคม 2567 จังหวัดน่าน ได้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอบ้านหลวง อำเภอเวียงสา และอำเภอนาน้อย โดยฝนที่ตกหนักส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำ และแม่น้ำสาขาต่าง ๆ เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยขณะนี้ได้สั่งการให้นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานไปยังผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อำเภอเมืองน่าน ทำให้ปริมาณน้ำในหลายพื้นที่มีระดับสูงขึ้น โดยที่อำเภอท่าวังผา เข้าสู่วิกฤต ระดับน้ำได้ล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถเก็บข้าวของหนีน้ำได้ทัน ทำได้เพียงย้ายรถยนต์หนีน้ำไปจอดไว้ที่เกาะกลางถนน โดยน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ใน 10 ตำบล 68 หมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านท่าวังผา หมู่ 2 และ หมู่ 7 และบ้านอาฮาม หมู่ 3 สบยาว หมู่ 4 ตำบลท่าวังผา ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้าน 500 กว่าหลังคาเรือน ถูกน้ำท่วม หลายหลังเป็นบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปอาศัยอยู่บ้านญาติ และที่จุดอพยพที่ทางอำเภอจัดเตรียมไว้ที่โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม และล้นทะลักเข้าท่วมถนนสาย 101 ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ระดับสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านสัญจรได้ นอกจากนี้ จุดตรวจวัด N 64 บริเวณบ้านผาขวาง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำสูง 8.66 เมตร เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร โดยนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่านได้เตรียมการเฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่ง เป็นพื้นที่ในเขตเทศบาลเมือง โดยได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำและปิดประตูระบายน้ำทั้งหมดบริเวณริมน้ำน่าน

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวต่อว่า ขณะที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติมีดินสไลด์ทับเส้นทางหลายจุด โดยหนักที่สุดที่ ระหว่างบ้านด่านหมู่ 3 ตำบลขุนน่านมุ่งหน้าบ้านนาคุ หมู่ 5 ตำบลขุนน่าน ระหว่างบ้านเปียงก่อ หมู่ 2 ตำบลขุนน่าน -บ้านด่านหมู่ 3 ตำบลขุนน่าน  ระหว่างบ้านง้องเปาหมู่ 1 ตำบลขุนน่าน-บ้านเปียงก่อหมู่ 2 ตำบลขุนน่านทั้ง 3 จุดดินได้สไลด์ลงมาทับเส้นทางรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ บ้านป่าไคร้ บ้านนาเตา ตำบลริม อำเภอท่าวังผา น้ำได้ท่วมถนนในหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งให้การช่วยเหลือ โดยคืนวานนี้ ตนพร้อมด้วย นายสุทัศน์ จินตเวชศาสตร์ นายอำเภอท่าวังผา และนายวรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ลงเรือเข้าพื้นที่น้ำท่วมอำเภอท่าวังผา สำรวจความเดือนร้อนของชาวบ้าน พร้อมเร่งจัดอาหารและน้ำดื่มเข้าแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือน โดยมีทางมูลนิธิเพชรเกษมน่าน นำเรือเข้าไปส่ง และรับส่งชาวบ้านที่มีความต้องการออกมาข้างนอก

ด้าน นายสายัณห์ ชัยยศ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกดังต่อเป็นกลุ่มฝน ที่ได้รับอิทธิพลจาก ร่อง ฝนที่พาดผ่าน ภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่ง จะยังคงตกหนักสลับเบาอยู่อย่างนี้จนถึงสิ้นเดือน กันยายน 2567 ขอให้ประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำระมัดระวัง เตรียมการ เฝ้าระวังและติดตามข่าวอากาศอย่างใกล้ชิด

“จากการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า ในช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ฝนจะยังคงตกหนักสลับเบาอยู่อย่างนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำระมัดระวัง เตรียมการเฝ้าระวังและติดตามข่าวอากาศทั้งทางเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน https://www.facebook.com/nanprovince/?locale=th_TH หรือ ข้อมูลข่าวสารจากหอกระจายข่าวหมู่บ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้ประสานทุกหน่วยเฝ้าระวังพร้อมออกช่วยเหลือประชาชน และเตรียมแผนรับมือกับมวลน้ำขนาดใหญ่จากทางสายเหนือที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อำเภอเมืองน่าน คาดว่าจะเกิดน้ำล้นตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองน่านบางส่วนได้ โดยทางเทศบาลเมืองน่านได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำและปิดประตูระบายน้ำทั้งหมดบริเวณริมน้ำน่าน ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและยังไม่ได้รับการให้ความช่วยเหลือขอให้แจ้งข้อมูลมาที่สายด่วนนิรภัย 1784 หรือ สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม ที่ 1567 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งให้การช่วยเหลือต่อไป” นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน

Leave a Reply